skip to Main Content
เมนู | ค้นหา
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Filter by Categories
Clip Video
Event/Workshop
TKT
Travel
ข้อมูลจัดทริปเอง
ขายอุปกรณ์เดินป่า
ข่าวท่องเที่ยว
ทริปเดินป่า ทัวร์เดินป่า
ท่องเที่ยวชุมชน
ท่องเที่ยวไทย
ทัวร์ชิลชิล
ทัวร์ต่างประเทศ
ทัวร์ต่างประเทศแบบCollective
ทัวร์ทะเล
ทัวร์หมู่คณะ/ทีมบิลดิ้ง/สัมมนา
ทัวร์ในประเทศ
ทีมงาน/STAFF
ผจญภัย
มือใหม่ท่องโลก
มือใหม่เดินป่า
รีวิวการจองที่พัก
รีวิวจากลูกค้า
รีวิวทริปเดินป่า
รีวิวทริปเที่ยวกับชุมชน
รีวิวอุปกรณ์เดินป่า
สูตรอาหาร(ใน)ป่า
อาบป่า
เดินป่า
เทคนิคการใช้อุปกรณ์
เทคนิคเดินป่า
เทศกาล
เที่ยวต่างแดน
เที่ยวในประเทศ
โปรแกรมทัวร์
โปรโมชั่น
โอ๊ววว…แม่เจ้า…เขาช้าง พังงา – โดย ป้าป่องอีหืด

โอ๊ววว…แม่เจ้า…เขาช้าง พังงา – โดย ป้าป่องอีหืด

เขียนโดย ป้าป่องอีหืด ตั้งแต่ 2547 ยังอมตะ รอนักเดินป่ารุ่นใหม่ไปตามรอยอยู่

ตราจังหวัดพังงา

ผ่านไป ผ่านมาจังหวัดพังงาบ่อย ๆ มองเห็นขุนเขาตระหง่านอยู่กลางเมือง คิดเล่น ๆ เสมอว่า เออ..น่าขึ้นไปเดินเล่นเนาะ ไม่รู้จะขึ้นได้ป่าวจนเมื่อได้ไปมีโอกาสเยือนแหล่ง unseen ลอดถ้ำพุงช้าง ซึ่งเป็นถ้ำน้ำลอดยาวตลอดแนวเขาช้าง ก็ปากคัน ถามน้องคนที่พาเข้าถ้ำเล่น ๆ ว่า อยากขึ้นไปเดินเล่นบนเขาบ้าง เขาก็ตอบได้ทันใจ จัดให้ได้เลยคับบบบบ ….. จึงเป็นที่มาที่ไปของงานนี้แหละ

เขาช้าง คือหนึ่งในสัญลักษณ์ของจังหวัดพังงา ที่เห็นส่วนเขียวแก่ ๆ อยู่เป็นฉากหลังน่านแหละ แหะ ๆ เขาไปลอดพุงกัน แต่ป้าจะไปเกาะหลังไง จากน้องนาถ น้องชายที่พาเข้าถ้ำ บอกว่ามีพี่ที่ถ้ำ เขาเคยขึ้น ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง โดยจะเลาะเลียบหน้าผาขึ้นไปตามข้าง ๆ ไต่ขึ้นบริเวณที่ทรงคล้าย ๆ คอช้าง จากนั้นจึงค่อยไต่ขึ้นหลัง ข้างบนเป็นสันยาวเดินได้ตลอด วิวสวย ตลอดทางไป จะพบกล้วยไม้พวกรองเท้านารี เหลืองกระบี่ เหลืองตรัง และสิงโตพันธุ์เล็ก ๆ พันธุ์ไม้ มีพวกตะเคียนเขา และลำเจียก (หนามล้วน ๆ )

ภูเขาช้าง เป็นภูเขาหินสูงชัน เป็นรูปช้างนอนหมอบ
อยู่ในเขตเทศบาลเมืองพังงาด้านหน้าเป็นเป็นที่ตั้ง
ของส่วนราชการหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะศาลากลางจังหวัด
เป็นภูเขาที่มีทั้งประวัติและตำนาน คู่กับเมืองพังงา

คือคำอธิบายที่จดมาจากใต้รูปสัญลักษณ์จังหวัดคับ
นัดหมายได้ที่ ด้วยความประมาท เราก็ตกปากรับคำว่า จะไปเยือนหลังช้างกันวันเสาร์ อาทิตย์ที่ 30 – 31 ตุลา ฝั่งคนนำ ก็มีน้องนาถ และพี่เมย์ มือฉมังแห่งถ้ำพุงช้าง พาไป ส่วนป้า มี 2 หน่อ หลอกหลานที่ทำงานมาได้คนเดียว (โชคร้ายไปซะ)
และก็ด้วยความประมาทอีกนั่นแหละ น้องนาถบอกว่าเดินเพียง 3 – 4 ชั่วโมง เราจึงกะเวลาเริ่มเดินสายไปหน่อย สตาร์ทจริง ๆ ออกจากหน้าแค๊มป์ที่เป็นจุดบริการนักท่องเที่ยวเข้าถ้ำ ตอน 11 โมงแน่ะ หลังจากนั้นชะตากรรมก็เปลี่ยนไป
ออกตัวก่อนว่า ถ่ายรูปไม่ได้ความ กล้องยืมเขามา ใช้ไม่ค่อยเป็น แถมมือไม้สั่น มุมให้ยืนถ่ายดี ๆ ก็ม่ายค่อยมี เอาพอมาคุยเป็นข้อมูลเฉย ๆ ก็แล้วกันนะ เอ้า….เริ่ม

พี่เมย์ น้องนาถ เขาพาลัดเลาะข้ามกำแพงวัด ไปยัง*เขา ซึ่งเป็นเวิ้งถ้ำ แล้วก็ชี้บอกว่า เอ้า ไต่บันไดขึ้นไป เฮ้อออ จะเปลี่ยนใจก็ไม่ทันแล้ว

ตอนแรกนึกว่าพามาเดินเลาะเชิงเขา นี่พี่ท่านเล่นพาไต่เขา กึ่งหน้าผาขึ้นมาเรื่อย ๆ เลยอ่ะ แงงง ไม่เห็นบอกก่อนเลย
รูปนี้ พี่เมย์ แห่งถ้ำพุงช้าง กำลังยืนแนบผาชมวิว ซึ่งทางขึ้นเรา ก็ประมาณผาที่พี่เขายืนพิง ๆ น่ะแหละ

ผู้ร่วมทาง ที่ถูกหลอกล่อให้ไปร่วมชะตากรรม เวลายืนชมวิว ต้องอยู่ท่าแบบนี้ ม่ายงั้นเหวออากาศ


วิวที่ด้อม ๆ มอง ๆ ได้ ตอนพักแขน พักขา จะเห็นอ่าวพังงา


อีกมุม เป็นตัวเมืองพังงา ขณะห้อยหัวถ่าย


ตอนไต่ ก็ได้อาศัย*เจ้าลำเจียกหนามเนี่ยแหละ ช่วยชีวิตไว้ได้หลายช่วง ก็มันมีแต่*ต้นเนี้ยยย เต็มเลย ทำไงได้ กลับมาตัวลายเป็นตุ๊กแกเลย ขึ้นประกวดไม่ได้อีกนาน


ทางขึ้นก็ประมาณราว ๆ นี้ตลอด มีชั้นพักแคบ ๆ ให้ยืนทำตัวแบน ๆ ได้ 3 – 4 ช่วง พอได้พักหอบ ขอย้ำ ไม่ใช้สลิง ไม่มีตัวแสดงแทน ใช้แต่มือ กับเท้า แถมต้องหอบเป้กันอีก แว๊กกกกก

ไต่ระห่ำนรก แต่จริง ๆ แล้วทางทีมงานเขาก็พยายามหาหนทางที่ไม่เสี่ยงจนเกินไปให้เราตลอด แต่เนื่องจากมีการหลุดเส้นทางบางช่วง และเพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงต้องพยายามดั้นขึ้นให้ได้


ระหว่างทาง มีกล้วยไม้แยะมาก ทั้งรองเท้านารีเหลืองตรัง เหลืองกระบี่ เกาะเต็มผา แต่ยังไม่มีดอก และไม่สามารถควักกล้องเก็บภาพมาโชว์ได้ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวววว ตูจะลงได้ไงฟะ

เขากลางเมือง
เขากลางเมือง ถ่ายตอนแวะยืนหอบบบบ มองลอดทิวไม้มาเห็นพอชื่นใจ

เราเริ่มสตาร์ทกันเมื่อ 11 โมง พักเรื่อย ๆครั้งละ 5 – 10 นาทีประมาณ 4 – 5 พัก(ก็มันเหนื่อย) ข้าวปลาไม่ยอมกินกัน กระหายแต่น้ำ อ้อออ น้ำบนนี้บ่มี เราเลยต้องหอบน้ำขึ้นมากันประมาณ 15 ขวด เป้ตะละคนยังกะแท่งปูน เสื้อผ้าสำรองของไร้ประโยชน์ โยนทิ้งไว้ข้างล่างได้เลย
และแล้ว ก็มีข่าวร้าย เราหลุดเส้นทางปกติ ซึ่งปกติจะมีไต่ไปเกาะแถว ๆ คอช้าง แล้วไต่ขึ้นสะบัก กับหลังต่อได้ แต่ปรากฎว่า เราหลุดซ้ายแยะไปหน่อย เลยจุดหมาย แต่เฉียด ๆ ใต้สะบัก เหลืออีกดูแล้วประมาณ 100 เมตรจะถึงหลัง แต่ดูเวลาแล้วท่าทางจะมืดแน่ถ้าปีนต่อ และตรงที่เราเบรค ก็เป็นจุดที่พอผูกเปลทำสลัมได้ 4 คนพอดี ๆ (แบบรวมกันเราอยู่) ผูกกับเจ้าต้นลำเจียกเขา ที่เต็มไปด้วยหนามน่ะแหละ กว่าจะจัดที่ จัดทาง แสงสุดท้ายก็หายไปพอดี เราบรรจุท้องมื้อเที่ยว + เย็น นอนเปล ชมจันทร์เต็มดวงเตรียมแปลงร่าง เอ๊ยยยเตรียมพักผ่อนกันเลย เพราะใช้พลังงานจนแห้งไปหมด …. เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพเพิงพักเราไว้ ทั้งกลางคืน (มืด) แสงไฟในเมืองสวยมาก เห็นไฟในทะเลลิบๆ เต็มไปหมด ฟ้าค่อนข้างเคลียร์
เช้า ก็ไม่ได้ถ่ายอีก เพราะที่จะยืนแทบไม่มี ต้องเคลียร์เปลก่อน ถึงจะมีที่ขยับตัวทำอย่างอื่นได้น่ะ เฮ้อออ
เราเริ่มไต่ต่อจากจุดนอนตอนประมาณ 8 โมงเศษ ๆ ก็หน้าผาตรงที่นอนดูเลยแหละ

เราตกลงกันว่า เวลาท่าจะไม่อำนวย กะจะปีนตัวเปล่าขึ้นไปเพื่อถ่ายภาพอย่างเดียว แล้วรีบลง น้ำก็กำลังจะหมด ปรากฎว่าไต่ไป ได้ประมาณ ไม่ถึง 50 เมตร ก็พบว่าจุดต่อไป อีกเพียงนิดเดียวจะถึงหลัง แต่มันดันเป็นหน้าผาโล้นเลี่ยน เกลี้ยงเกลา บ่มีอะไรให้เกาะเอาซะเลยน่ะดิ หลังจากปรึกษาสมาชิกทำโต๊ะกลมกัน ก็ตกลงว่า คงต้องมีนัดล้างตา เนื่องจากความประมาทของป้าเอง ที่เหลืออยู่ คือ ปีนกลับไปเอาสัมภาระ และต้องเริ่มไต่ลงได้แล้ว หากยังคิดจะมีงานทำอยู่


อ้า เริ่มลงได้แล้ว ตอนแรกนึกว่าจะลงได้เร็วกว่าขาขึ้น เหมือน ๆ กับเวลาไปเดินที่อื่น กลับกลายเป็นว่า ขาลง ยิ่งเสียวสะดือกว่าซะอีกน่ะ ป้าเลยทำตัวเป็นหอยทากค่อย ๆ ไถ ๆ ลงมา

บางช่วง เห็นแล้ว ยังมานั่งนึก ว่า เอ…ตอนขึ้น ตรูขึ้นไปได้ไงฟะ เสียวไงก็ต้องลง คิดถึงแผ่นดินจะแย่แล้ว


เนี่ย สภาพบันไดปากถ้ำ ที่ใช้ขึ้น และลง ก่อนไปไต่ระห่ำ กับผนังผา ไม้ทุกอันผุหมดแล้ว ได้อาศัยต้นไม้ข้าง ๆ ไว้เกาะช่วย ม่ายงั้นนนน อึ๊ยยยย


ความสูงจริง ๆ เขาว่าเพียง 900 เมตรเอง

เนี่ย สภาพกางเกงป้า เมื่อร่อนถึงพื้น ดีว่านุ่งหลายชั้น ทะลุไป 2 ชั้นเลยแหละ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ทนดูภาพฝีมือบ่วยเสี่ยวมาจนจบ มีรูปฝากแถมท้าย เห็นมันน่ารัก น่าหยิกดี เลยถ่ายมาเล่น ๆ มันคือต้นลำเจียกเขาทรงจักกะจี้น่ะ

หากผู้ใดสนใจจะไปเดินเล่นที่นี่ ไปให้ถึงพังงา ก็จะเห็นเขานี้ ตระหง่านอยู่กลางเมือง ไปติดต่อพี่เมย์ ได้ที่แค๊มป์บริการนักท่องเที่ยวลอดถ้ำพุงช้าง อยู่ในเขตเทศบาลเมืองพังงาหลังศาลากลางจังหวัด ก่อนเข้าตัวตลาดพังงา มีทางราดยางเข้าไป 500 เมตร ถึงวัดประพาส ประจิมเขต แล้วเดินเข้าไปยังถ้ำในบริเวณวัดได้ ถ้ำพุงช้างยังเป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวแห่งนึงของพังงาอีกด้วย การเดินทางมาก็ไม่ยาก

สำหรับเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องห่วง พี่เมย์เขาจะดูแลให้ได้ในระดับนึง ซึ่งถ้าถึงกับต้องเสี่ยงเกินไป ก็จะเลี่ยงหาที่ปลอดภัยกว่าให้ และมีเชือกคอยช่วยได้บางช่วง (แม้จะไม่มากนัก)

สะระตะ แล้ว ใช้เวลาไต่ขึ้น 6 ชั่วโมงเศษ ๆ
ขาลง ไต่ลงราว ๆ 5 ชั่วโมง
หากต้องการมาเที่ยว ควรฟิตร่างกายให้พร้อม (ห้ามซ้อมยกแต่แก้วอย่างป้า)
ถ้าเริ่มไต่ได้สัก 8 โมงเช้า จะกำลังสวย น่าจะถึงสันหลังไม่เกิน 5 โมง (เผื่อนั่งพัก นั่งหอบ) ถ่ายวิว ทิวทัศน์ พระอาทิตย์ตกหลังเขาได้ เช้าวันที่สอง เดินเที่ยวบนสันเขาที่ยาวตลอดแนว เริ่มลงไม่เกิน 10 โมง น่าจะลงถึงเย็น ๆ
น้ำต้องแพ็คไป บนสันไม่มีแหล่งน้ำ
อากาศเย็น ลมแรง เตรียมเสื้อกันลมไปสักหน่อยก็ดี
เชือกปีนหน้าผา ขนาดไม่ต่ำกว่า 20 เมตร (งวดนี้ประมาท เอไปสั้นไปหน่อย)
รองเท้า ถ้าได้รองเท้าปีนหน้าผาก็เวิร์ค แต่น้องที่ไปด้วยใช้นันยาง ก็พอรอดตัว เกาะผาพอไหว
ถุงมือน่าจะมี เพราะต้นหนามแยะมาก และช่วยลดความเจ็บเมื่อต้องเหนี่ยวหินคม ๆ ตามผนังผา (บางคนอาจจะไม่ค่อยถนัด)

หวังว่าท่านคงจะมาเยือนสักครั้ง …

บทความต้นเรื่อง :
https://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?board=trip&content=5411

ทีมงานTKT

ทีมงานของเราทุกคนชอบการท่องเที่ยว เดินทาง เดินป่า เราอยากให้คนไทยออกเที่ยวธรรมชาติกันมากๆ สนุกให้เต็มที่ มีหัวใจอนุรักษ์ TrekkingThai.Com

Back To Top