skip to Main Content
เมนู | ค้นหา
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Filter by Categories
Clip Video
Event/Workshop
TKT
Travel
ข้อมูลจัดทริปเอง
ขายอุปกรณ์เดินป่า
ข่าวท่องเที่ยว
ทริปเดินป่า ทัวร์เดินป่า
ท่องเที่ยวชุมชน
ท่องเที่ยวไทย
ทัวร์ชิลชิล
ทัวร์ต่างประเทศ
ทัวร์ต่างประเทศแบบCollective
ทัวร์ทะเล
ทัวร์หมู่คณะ/ทีมบิลดิ้ง/สัมมนา
ทัวร์ในประเทศ
ทีมงาน/STAFF
ผจญภัย
มือใหม่ท่องโลก
มือใหม่เดินป่า
รีวิวการจองที่พัก
รีวิวจากลูกค้า
รีวิวทริปเดินป่า
รีวิวทริปเที่ยวกับชุมชน
รีวิวอุปกรณ์เดินป่า
สูตรอาหาร(ใน)ป่า
อาบป่า
เดินป่า
เทคนิคการใช้อุปกรณ์
เทคนิคเดินป่า
เทศกาล
เที่ยวต่างแดน
เที่ยวในประเทศ
โปรแกรมทัวร์
โปรโมชั่น
ทัวร์ตามรอยพระบาทเสด็จประพาสบนพื้นที่สูง เส้นทาง ดอยปุย – อ่างขาง – ม่อนเงาะ

ทัวร์ตามรอยพระบาทเสด็จประพาสบนพื้นที่สูง เส้นทาง ดอยปุย – อ่างขาง – ม่อนเงาะ

โปรแกรม ตามรอยพระบาทเสด็จประพาสบนพื้นที่สูง

เส้นทาง ดอยปุย – อ่างขาง – ม่อนเงาะ

เดินทางวัน เสาร์ ที่ 4 – จันทร์ 6 กุมภาพันธ์ 60

ปฐมบทแห่งชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของพี่น้องบนพื้นที่สูง บ้านม้งดอยปุย –

พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ -สวนสองแสน –

สถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขาง

จุดเริ่มต้นงานวิจัยสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องบนพื้นที่สูง
พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) – ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ

เย็นศิระเพราะพระบริบาลสู่การน้อมนำแนวพระราชดำริมาสานต่อ
สวนกุหลาบห้วยผักไห่ – ไร่สตรอเบอรี่สะเมิง
***************************

เสาร์ ที่ 4 ก.พ. : ปฐมบทแห่งโครงการหลวง บ้านม้งดอยปุย – พิพิธภัณฑ์ชาวเขา – สวนดอกไม้ดอยปุย – พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ – สวนสองแสนปฐมบทแห่งโครงการหลวง – ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล (อาหารเช้า – กลางวัน – เย็น)

05.00 ทีมงานรอต้อนรับคณะผู้เดินทางที่สนามบินดอนเมือง (กรุณาเตรียมบัตรประชาชนเพื่อดำเนินการCheck in)

06.50 บินลัดฟ้าสู่จากกรุงเทพสู่หัวเมืองล้านนา เมืองเชียงใหม่ โดยสายการบิน Nok Air เที่ยวบินที่ DD8300(บนเครื่องมีอาหารว่างบริการค่ะ)

08.00 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าเมืองเชียงใหม่ เราจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปยังจุดต่าง ๆโดยรถตู้

เช้านี้ เราจะรับประทานอาหารเช้ากันที่ ครัวโครงการหลวง ดี อร่อย

09.00 ออกเดินทางไปยัง บ้านม้งดอยปุย โดยเปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถสองแถวสีแดง แวะจุดชมวิวหลังดอยปุย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านชาวเขาเล็ก ๆ ที่ตั้ง
อยู่ใกล้กับพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ในยามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นมา เชียงใหม่ พระองค์มักจะเสด็จมาประทับที่พระตำหนักแห่งนี้ และมักจะเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนชาวเขาที่อาศัยอยู่บนนี้เสมอ ๆ ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านได้ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาได้มีการปลูกพืชชนิดหนึ่งขึ้นรวมกับฝิ่น นั่นก็คือต้นท้อ จากนั้นเรื่องราวของโครงการหลวงก็ได้เริ่มก่อกำเนิดขึ้น

เราจะไปเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ชาวเขา ที่บอกเล่าเรื่องราวของชนเผ่าขาวเขาที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ว่าในประเทศไทยมีชาวเขาชนเผ่าอะไรบ้าง มีความเป็นอยู่ วัฒนธรรม การดำรงชีวิตอย่างไร เพราะอะไรชาวเขาจึงต้องปลูกฝิ่น อันเป็นพืชมหันตภัยร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติและประเทศชาติ

จากนั้นเราจะไปเดินชมสวนดอกไม้ดอยปุย ที่สวนแห่งนี้มีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ รวมถึงดอกฝิ่น ที่มีสีสันสวยงามแต่แฝงพิษร้ายไว้ ปลูกไว้ในสวนแห่งนี้ด้วย เดินทางไปชมจุดปฐมบทแห่งโครงการหลวงกันที่ “สวนสองแสน” เป็นสวนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน “200,000 บาท (สองแสนบาท)” จัดซื้อพื้นที่เพิ่มเติมให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อทรงสนับสนุนดำเนินการศึกษาวิจัยและพัฒนาบนที่สูง ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสถานีวิจัยดอยปุย ซึ่งถือเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกและแห่งเดียวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพื้นที่ให้สนองพระราชดำริการดำเนินงาน ของ มูลนิธิโครงการหลวง

หลังจากนั้นเราจะเดินทางไป”พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์” ที่ประทับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ทรงงาน และเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ ในยามที่พระองค์เสด็จแปรพระราชฐานมายังภูมิภาคนี้

12.00 รับประทานอาหารกลางวันกันที่ ร้านอาหารเฮือนห้วยแก้ว

13.00 ออกเดินทางไปยังดอยอ่างขาง ที่ตั้งของโครงการหลวงแห่งแรกของประเทศไทย

16.00 เดินทางไปบ้านนอแล เพื่อชมวิวทิวเขา และฐานทัพของประเทศพม่า ที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นบ้านหลังใหม่ของชาวปะหล่องที่อพยพหนีภัยสงครามระหว่างพม่ากับไทยใหญ่มาจากดอยลาย ประเทศพม่า     เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จที่ดอยอ่างขาง นายโม มันเฮิง ตัวแทนกลุ่มปะหล่องได้กราบทูลขออยู่ในประเทศไทยกับในหลวง และพระองค์ก็ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อยู่ในแผ่นดินไทยได้ “แต่ท่านว่าห้ามปลูกฝิ่น ให้ปลูกผักผลไม้” … จากวันนั้น ชาวปะหล่องได้มีโอกาสหลับตาลง และเรียกผืนดินแห่งนี้ว่า “บ้าน”

17.30 เดินทางเข้าที่พัก “อ่างขางวิลล่า ” หรือระดับเทียบเท่า – พักห้องละ 2 ท่าน

18.30 รับประทานอาหารเย็นที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

จากนั้น ไปเดินเล่นเที่ยวชมบรรยากาศยามค่ำคืนของดอยอ่างขางที่ ถนนคนเดินอ่างขาง

20.00 นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์

อาทิตย์ ที่ 5 ก.พ. : จุดเริ่มต้นงานวิจัยสู่ชีวิตที่ดีขึ้นของชาวดอย ตะวันฉายที่ขอบด้ง – ไร่สตรอเบอรี่ขั้นบันไดชุบชีวิต – ตามรอยเสด็จโรงเรียนบ้านขอบด้ง – สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สถานีสร้างชีวิตคนดอย (อาหารเช้า- กลางวัน – เย็น)

05.00 วันนี้เราจะตื่นเช้ากันสักนิด เดินทางไปบ้านขอบด้ง เราจะมาทักทายแสงแรก แสงแห่งความสุขที่เริ่มสาดแสงมาทุกวันนับตั้งแต่ในหลวงเสด็จมายังบนดอยสูงแห่งนี้

07.00 ชมวิวภูเขาและไร่สตรอเบอรี่ขั้นบันไดวางเรียงตัวไกลสุดลูกหูลูกตา หนึ่งในผลไม้เมืองหนาวที่ทางสถานีวิจัยเกษตรหลวงได้ทำการทดลองปลูก จนได้ผลและนำมาส่งเสริมให้ชาวบ้านทำการปลูกเพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพแทนการปลูกฝิ่น

จากนั้นแวะไปเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านขอบด้ง โรงเรียนแห่งแรกในหมุ่บ้านแห่งนี้ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้เข้ามาช่วยก่อตั้ง เพื่อให้ความรู้แก่เด็กๆชาวเขา ซึ่งเป็นเด็กชาวปะหล่อง มูเซอดำ และไทยใหญ่ สมัยก่อนเด็กๆ เหล่านี้ไม่รู้ภาษาไทยเลย ทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้ไม่อยากมาโรงเรียน ทำให้ครูเรียม ครูผู้สอนอยู่โรงเรียนแห่งนี้เกิดความท้อใจหลายครั้ง แต่เมื่อระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านขอบด้ง พระองค์ก็เสด็จเข้าไปในอาคารเรียนที่อยู่ข้างหน้าโดยมีพระราชดำรัสว่าให้ดูแลการเรียนการสอนของเด็กๆ เน้นให้เด็กเรียนภาษาไทย และได้ทรงกล่าวกับครูเรียมว่า “ฉันฝากเด็กชาวเขาเหล่านี้ด้วย ตัวฉันอยู่ไกล ครูดูแลด้วยนะ”

08.30 กลับมารับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท จากนั้นเก็บสัมภาระให้เรียบร้อย

09.30 เที่ยวชมสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โครงการหลวงแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นแหล่งวิจัย ทดลองปลูกพืชผลไม้เมืองหนาว เพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาหันจากการถางป่าปลูกฝิ่น มาปลูกไม้ผลเมืองหนาว และปลูกป่า ทำให้ดอยอ่างขาง ดอยสูงที่เต็มไปด้วยหญ้าสูงและดอกฝิ่น ไม่มีแหล่งน้ำ กลับกลายเป็นผืนป่าสีเขียวและสายน้ำก็เริ่มกลับมาหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนบนดอยแห่งนี้

12.00 ลิ้มลองสุกี้แบบยูนานต้นตำรับที่ร้านเจ๊เหมยสุกี้ยูนาน

13.00 เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) โรงงานหลวงแห่งแรกที่ผลิตอาหารสำเร็จรูปในประเทศไทย ในหลวงทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโรงงานแห่งนี้ให้ทำหน้าที่แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อรองรับวัตถุดิบและเพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยการแปรรูป เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของพี่น้องบนพื้นที่สูงได้อย่างยั่งยืน

15.00 ออกเดินทางไปยังศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ หนึ่งในโครงการหลวงที่อยู่บนดอยห่างไกล ที่ ๆ หลายคนไปไม่ถึง แต่ในหลวงทรงไปถึง

16.30 เดินทางถึงบ้านก๋ายน้อยเราจะเปลี่ยนจากรถตู้ เป็นรถกระบะเพื่อเดินทางขึ้นไปยัง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ”

จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ พักผ่อนตามอัธยาศัย –พักห้องละ 2 ท่าน

18.00 รับประทานอาหารเย็นอร่อย ๆ วัตถุดิบสดใหม่ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ

20.00 นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์

จันทร์ ที่ 6 ก.พ. : เย็นศิระเพราะพระบริบาลสู่การน้อมนำแนวพระราชดำริมาสานต่อความร่มเย็นเข้าปกคลุม ทะเลหมอกม่อนเงาะ – อยู่อย่างพอเพียงไร่ชาลุงเดช – “ฟักทองเข้าแถว”โครงการหลวงม่อนเงาะ – น้อมนำแนวพระราชดำริสวนกุหลาบห้วยผักไห่- ประชาชาผาสุก..เก็บสตรอเบอรี่สะเมิง (อาหารเช้า – กลางวัน – เย็น)

05.30 เช้านี้เราจะเดินเท้าไปยอดดอยม่อนเงาะ เราจะไปทักทายทะเลหมอกและพระอาทิตย์ยามเช้า ความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพราะพระบารมีของในหลวง ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวให้เราแวะถ่ายภาพระหว่างทางเรื่อย ๆ เมื่อไปถึงยอด ทีมงานบริการของว่างเป็น Snack Box คนละกล่อง พร้อมน้ำผลไม้นะจ๊ะ
หลังจากเก็บภาพทะเลหมอกกันเรียบร้อยแล้ว เราจะเดินทางด้วยรถกระบะกันต่อ เราจะไปชมวิวสวยๆ แห่งความพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ไร่ชาลุงเดช

09.00 ก่อนเดินชมไร่ชา เราจะเติมพลังยามเช้าด้วยข้าวต้มร้อน ๆ และชา หรือกาแฟสดหอม ๆ ที่ไร่ชาลุงเดชกันเสียก่อน

หลังท้องอิ่ม เราจะไปเดินชมไร่ชาลุงเดช เกษตรกรดีเด่น และเป็นเกษตรกรสมาชิกโครงการหลวง ไร่ชาแห่งนี้เป็นไร่ชาขนาดไม่ใหญ่จนเกินไปนักเขียวขจีไปด้วยชาเบอร์ 12 , ชาเบอร์ 17 และแซมด้วยชาอัสสัมพันธุ์พื้นเมืองอีกจำนวนหนึ่งโดยมีแนวเทือกเขาเป็นฉากหลัง จากนั้นไปเที่ยวชมแปลงปลูกผักของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะเป็นโครงการหลวงที่เน้นเรื่องพืชผักที่ทดแทนการปลูกฝิ่น ควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ เราจะไปชม “ฟักทองเข้าแถว“และไปโรแมนติกกับ “แปลงดอกไม้สีม่วง

10.30 อำลาศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งทุ่งกุหลาบ “สวนกุหลาบห้วยผักไผ่

12.30 รับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางดอกกุหลาบกว่า 187 สายพันธุ์

13.30 เดินเที่ยวชมสวนดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ หลากสีสัน บางสายพันธุ์มีสีแปลกตาอย่างบลู ฟอร์ ยูที่มีสีม่วง ซัมเมอร์ สโนว์ที่ไล่สีตั้งแต่ขาวไปชมพูอ่อนในต้นเดียว, สีแดงเข้มจาก สตาร์รูน่า และ สีแดงและขาวในดอกเดียวจาก ดับเบิ้ลดีไลท์

สวนกุหลาบห้วยผักไผ่” นี้เป็นหน่วยย่อยของโครงการหลวงทุ่งเริง ที่ได้น้อมนำเอาแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติเพื่อดำเนินการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพที่เหมาะสม เพื่อให้มีรายได้พอกินควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำ ทดแทนการทำลายพื้นที่ป่าจาก การทำไร่เลื่อนลอย

จากนั้นเดินทางไปยัง “สะเมิงดินแดนแห่งสตรอเบอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดิมดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนแห่งความแห้งแล้ง ทุรกันดาร ยากจน และยากแก่การเข้าถึง แต่ด้วยพระวิริยะอุตสาหะแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  พระองค์ทรงเสด็จมาทรงงานพื้นที่แห่งนี้หลายครั้ง จนพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความร่มเย็น ประชาชนพึงพาตนเองได้ แต่พระองค์ก็ต้องทรงแลกกับปัญหาทางพระหทัย เนื่องมาจากการติดเชื้อไมโครพลาสมาจากการเสด็จมายังพื้นที่แห่งนี้

เราจะไปเก็บสตรอเบอรี่สด ๆ จากไร่ สตรอเบอรี่ส่วนใหญ่ของที่สะเมิงโดยมากเป็นพันธุ์ 80 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีรสชาติหวาน มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สีแดงสวยสด ^^ เมื่อเก็บสตรอเบอรี่กันเรียบร้อยแล้ว เราะนำไปชั่งน้ำหนักและจ่ายค่าเสียหายกันจ้า (ราคาค่าสตรอเบอรี่ที่เก็่บมานี้ไม่ได้รวมในราคา Package ทริป –ถ้าไม่เก็บก็ไม่ต้องจ่าย บางช่วงผลผลิตอาจมีจำกัดหรือน้อย )

17.00 คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานสนามบินเชียงใหม่ (บนเครื่องมีอาหารว่างบริการค่ะ)

18.10 เดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยสายการบิน Nok Air เที่ยวบินที่ DD8319

19.15 เดินทางกลับถึงสนามบินดอนเมืองโดยปลอดภัย และเต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ

อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ ท่านละ 14,200 บาท
เด็ก (4-11 ปี) ท่านละ 13600 บาท (ไม่เสริมเตียง)

อัตรานี้รวม
– ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ(ดอนเมือง – เชียงใหม่ – ดอนเมือง) รวมน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง 15 กิโลกรัมต่อท่าน ไป- กลับ
– ค่ารถตู้ TOYOTA COMMUTER D4D VIP 9 ที่นั่ง (เดินทางที่เชียงใหม่)
– ค่ารถกระบะนำเที่ยวศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ
– ค่าที่พัก 2 คืน
คืนหนึ่ง อ่างขางวิลล่า พักห้องละ 2 ท่าน
คืนสอง บ้านพักของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะหรือเทียบเท่า – พักห้องละ 2 ท่าน
– ค่าอาหาร 8 มื้อ + อาหารว่าง น้ำดื่มตลอดการเดินทาง
– ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามรายการ
– ค่าตอบแทนวิทยากรท้องถิ่น ค่าเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดการเดินทาง
– ค่าประกันอุบัติเหตุ 1,000,000 บาท / ท่าน
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %

วิธีการจองและชำระค่ามัดจำ

จันทร์ – ศุกร์ ช่วงเวลา 10.00 – 19.00 น.
ไลน์แอดhttp://line.me/ti/p/@trekkingthai หรือค้นหาเราจาก ID : @trekkingthai

โทรจองได้ที่ 02-2780225/02-6197993/ 02-6171775 / 083-1888115 / 081-8230898

ยืนยันทริปได้โดยโอนเงินมัดจำจำนวนท่านละ 7000 บาท
ส่วนที่เหลือโอนเงินหลังจากที่ทางทีมงานของเรายืนยันการจัดทริปแล้วภายใน 1 สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง 

มาที่ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ นายนิพัทธ์พงษ์ ชวนชื่น
1. ธ.กรุงเทพฯ สาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เลขที่ 089-7-06322-8
2. ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เลขที่ 406-3-19665-8
3. ธ.กสิกรไทย สาขาเซฟ-อี พุทธมณฑลสาย 2 เลขที่ 001-8-73989-5
4. ธ.กรุงไทย สาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เลขที่ 983-6-49843-5

พิมพ์การสมัครทริปที่ลิงค์ด้านล่าง แล้วส่งโทรสารไปที่ 0-2619-9770

อย่าลืมแจ้ง ชื่อ-นามสกุลจริง อายุ เพศ อีเมล์ และเบอร์โทรที่ติดต่อได้
ของผู้เดินทาง ( เพื่อการทำประกัน )

หรือสแกนสลิป + ใบสมัครส่งไปที่ [email protected]

ใบสมัคร

แบบ ส่งอัตโนมัติ (ต้องมีภาพสลิปพร้อมแนบ) https://www.trekkingthai.com/?page_id=2502

แบบ pdf https://www.trekkingthai.com/tour/tkt_apply.pdf

แบบ word https://www.trekkingthai.com/tour/tripapply.docx

ใบสมัครสำหรับลูกค้าเก่าเคยมากับเราหรือสมาชิก(มีหมายเลขสมาชิกแล้ว) แบบ ส่งอัตโนมัติ (ต้องมีภาพสลิปพร้อมแนบ) https://www.trekkingthai.com/?page_id=3021

เราจะมีการตอบกลับทุกครั้งที่ได้รับใบสมัคร กรณีส่งอีเมล์หรือส่งแฟกซ์มาแล้วมาแล้วไม่มีใครติดต่อกลับในช่วง 2 วัน
ทำการก็ขอให้โทรมาสอบถาม เพื่อป้องกันการตกหล่นของเอกสาร

ออกเดินทางเมื่อสมาชิกครบ 6 ท่าน ++

เงื่อนไขการยกเลิกทริป :
1 กรณียกเลิกก่อนออกเดินทาง 15 วัน ทางเรายินดีคืนเงินมัดจำ 100%
2กรณียกเลิกก่อนออกเดินทาง 14 วัน ทางเราต้องขอยึดเงินมัดจำทั้งหมดนะจ๊ะ
3 กรณีที่มีสมาชิกมาแทนท่านที่ยกเลิกทริป ทางเรายินดีคืนเงินมัดจำให้ทั้งหมดจ้ะ

TEATA ECO CONSORTIUM Operated by TrekkingThai (TKT) ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ 11/ 03232

ติดต่อสอบถามและจองแพ็คเก็จ/ ทัวร์
TrekkingThai.com (TKT) โทร 02-2780225 / 02-6197993/
080-088988 / 081-8230898
Line Id : @Trekkingthai

หมายเหตุ
โปรแกรมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยที่มิต้องแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากสภาวะอากาศและปัจจัยอื่นๆอีกมากที่อาจทำให้การเดินทางไม่เป็นไปตามแผน และควบคุมไม่ได้ แต่ทางเราจะยึดมั่นถึงความสุขและรอยยิ้มของท่านเป็นสำคัญ

 

ท่านใดสนใจทริปนี้สามารถติดต่อจองทริปเข้ามาได้เลยจ้า
ติดต่อสอบถาม ให้กรอกข้อมูลแล้วเราจะตอบกลับไปให้ทราบ
(ระมัดระวังตรงกรอกอีเมล์ให้ถูกต้องนะจ๊ะ เพราะจะตอบกลับไม่ได้ถ้าอีเมล์ผิด)

ชื่อ-นามสกุล (required)

อีเมล์(required)

โทรศัพท์สำหรับติดต่อกลับ

ชื่อทริป-หัวข้อที่สอบถาม

ข้อความสอบถาม (ควรระบุ ทริป/วันที่จะเดินทาง/จำนวนคน กรณีสอบถามจำนวนที่ยังว่าง) เพื่อการตอบกลับที่เร็วและชัดเจน

Back To Top