ทัวร์เดินป่าภูเข้…พิชิตภูสองแผ่นดิน จัดโดย TKT ECOTOUR by Trekkingthai.com ปี 2562

เดินหนึ่งได้ถึงสอง กับเส้นทางที่เป็นรอยต่อของสองแผ่นดินระหว่างไทยลาว และเรื่องเล่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นตำนานแห่งขุนเขา หน้าฝนนี้พร้อมแล้วกับการไปสัมผัสกับธรรามชาติของทุ่งนาข้าวสีเขียวฉ่ำปอดชื่นใจเป็นที่สุด สำหรับขาถึก และลุย ไม่ควรพลาด

Highlight
1. เดินป่าท้าพิสูจน์กำลังขาสุดท้าทายสำหรับเหล่านักท่องไพร “ยอดสูงแห่งเทือกเขาหลวงพระบาง” สูง 2079 เมตร รอยต่อสองแผ่นดิน ยอดดอยแห่งอาณาจักรล้านช้าง ตำนานแห่งขุนเขาที่มีประวัติยาวนานในดินแดนคอมมิวนิสต์
2. ผืนป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ใส่เสื้อ มอส เฟิร์น เป็น“ดงผืนป่าโบราณ”ขนาดใหญ่ ในยามเช้าจะมีหมอกจางๆปกคลุมทั่วทั้งผืนป่า
3. ทริปนี้เป็นทริปเดินป่าหน้าฝน ยาวไปจนถึงหน้าหนาว ในช่วงฤดูฝนทุ่งข้าวจะเป็นสีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตา บางช่วงมีการแบ่งช่วงสี มองดูคล้ายกับแผ่นโมเสคเขียวอ่อน เขียวแก่วางเรียงตัวอย่างสวยงาม หากเป็นช่วงหน้าหนาวราวต้นเดือนพ.ย. – ต้นเดือนธ.ค. จากทุ่งข้าวสีเขียวจะกลายเป็นทุ่งข้าวสีทอง และเมื่อถึงช่วงปลายเดือนธ.ค. ทุ่งข้าวถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว แต่เราจะได้เห็นดอกพญาเสือโคร่งบาน ต้อนรับระหว่างการเดินทางเป็นช่วง ๆ เปรียบเสมือนเป็นเอกลักษณ์การเส้นทางเดินป่าแห่งนี้ หากอยากเห็นต้องมาที่นี่เท่านั้น!!

ระยะเวลาการจัดทริป : 3 วัน 2 คืน ไม่นับวันเดินทาง

ราคาทริปท่านละ : 5000 บาท (แบกสัมภาระส่วนตัว+ถุงนอนเอง)

Trip Rating : เดินป่าระดับ 3.5  ขึ้นเขาสูง เดินไกลและเดินหนัก เส้นทางมีโอกาสเปลี่ยนแปลงการเดินค่อนข้างสูง ซึ่งทางทีมงานทีเคทีและทีมงานท้องถิ่นจะเป็นผุ้ประเมินเหตุการณ์เฉพาะหน้าว่าควรจะใช้เส้นทางไหน ตั้งแค้มป์จุดไหน Trail เส้นทางเหนื่อยพอควร….ใจเกินร้อยไปได้จ้า

ลักษณะการเดิน : เดินป่าระดับกลาง – ยาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน “ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด” ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่ อาจต้องปีนป่าย ไม่ได้อาบน้ำ ความสะดวกน้อย

หมายเหตุ : สำหรับผู้ที่ชวนเพื่อนมาร่วมขบวน แนะนำดังนี้
1. ควรส่งโปรแกรมให้เพื่อนๆ ได้อ่าน และอธิบายให้เพื่อนๆ ทราบกันทุกคนก่อนนะคะ ว่าทริปนี้จะต้องเตรียมตัวยังไงและต้องเจอกับอะไรบ้าง กินอย่างไร นอนอย่างไร เดินแบบไหน เพราะถ้าเตรียมตัวไม่ดี จะไม่มีความสุข
2. การเตรียมตัวให้พร้อมกับสภาพอากาศที่อาจจะต้องเจอ เช่น ฝนตกในระหว่างทริป มีโอกาสเจอฝนค่อนข้างสูง
3. ควรให้เพื่อนสมาชิกประเมินตนเองก่อนตัดสินใจร่วมเดินทาง ถามให้แน่ใจ เจอฝนจะบ่นไหม เดินเหนื่อยจะบ่นไหม
4. รองเท้าที่ใส่จะต้องให้ความสำคัญกับดอกยางมากๆ ค่ะ เพราะตลอดทางเดินที่ต้องเดินขึ้นเขา จะต้องผ่านเส้นทาง ที่สูงชันบ้าง ลื่นบ้าง จึงไม่แนะนำรองเท้าแฟชั่น

เพิ่มเติม :
1. ระหว่างเส้นทางเดิน ชวนให้ทุกคนค่อยๆเดิน ค่อยๆชม และเรียนรู้ธรรมชาติไปด้วยกัน เดินบ้าง หยุดบ้างเพื่อเก็บสิ่งดีๆ ร้อยเรียงเรื่องราวธรรมชาติเล็กๆที่น่าประทับใจระหว่างทาง ทุกย่างก้าวที่ผ่านบนเส้นทางนี้อาจมีอะไรดีๆ ที่ไม่สามารถหาดูได้ในป่าคอนกรีตก็ได้นะคะ แม้แค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ก็อาจจะทำให้เรายิ้มได้
2. เราจัดการทริปมากว่า 20 ปี อุปกรณ์แค้มป์มีคุณภาพที่ดีและความปลอดภัยเราจัดให้ครบ และมีมาตรฐานการจัดการที่ชัดเจน เพื่อให้สมาชิกเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

TKT ECOTOUR(11/09521) จ-ศ 10.00-19.00
Line@ : @trekkingthai
โทร 02-278-0225/02619-7993 อีเมล์ [email protected]

[print_link] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2462″ color=”red”]ขั้นตอนการสมัครทริป
[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2502″ color=”red”]ใบสมัครแบบส่งอัตโนมัติ[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/tour/tkt_apply.pdf” color=”red”]ใบสมัครแบบ pdf[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/tour/tripapply.docx” color=”red”]ใบสมัครแบบ word[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?p=481″ color=”red”] แบบฟอร์มสอบถามอัตโนมัติ[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/pic1/map.jpg” color=”red”]แผนที่จุดนัดพบ
[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2462″ color=”red”]เงื่อนไขการยึด/คืนมัดจำ
[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2458″ color=”red”] ทำไมควรเลือกเรา[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=6169″ color=”red”]ความเห็นจากลูกค้าเก่า[/button]

ทัวร์เดินป่าภูเข้…พิชิตภูสองแผ่นดิน จัดโดย TKT ECOTOUR by Trekkingthai.com ปี 2562

กดที่ tab ต่างๆ เพื่อดูรายละเอียด

[tabs color=”lime”] [tab title=”โปรแกรมทัวร์”] [button color=”#009933″]

กำหนดการเดินทางปี 2562
– เดินป่าหน้าฝน ชมทุ่งข้าวสีเขียวชะอุ่ม –
ทริป 1/2562  27-29 ก.ค. 62          เดินทางคืน 26 ก.ค. 62  วันเฉลิมพระชนมพรรษา ร.10
ทริป 2/2562  10-12 ส.ค. 62         เดินทางคืน 9 ส.ค. 62   วันแม่แห่งชาติ
ทริป 3/2562  23-25 ส.ค. 62         เดินทางคืน 22 ส.ค. 61
ทริป 4/2562  13-15 ก.ย. 62        เดินทางคืน 12 ก.ย. 62
ทริป 5/2562 27 -29 ก.ย.62        เดินทางคืน 26 ก.ย. 62
ทริป 6/2562 12-14 ต.ค. 62         เดินทางคืน 11 ต.ค. 62 วันหยุดชดเชยวันคล้ายวันสวรรคต ร.9
ทริป 7/2562 18-20 ต.ค. 62         เดินทางคืน 17 ต.ค. 62
********************
หมายเหตุ ทั้งนี้กรณีอยากไปวันอื่น ๆ หากเพื่อน ๆ มีสมาชิกประมาณ 4 คนขึ้นไปแล้วติดต่อจองมาแต่เนิ่น ๆ นะคะ ทางเราจะช่วยประกาศหาเพื่อน ๆ ให้ จะได้หาคนมาร่วมทริปเพิ่มได้ทันหรืออยากให้จัดฉพาะกลุ่มเป็นส่วนตัวก็ติดต่อมาได้เลยจ้า (อย่างน้อยสามสัปดาห์ก่อนเดินทาง)
[/button]

รายละเอียดการเดินทาง

วันออกเดินทาง
20.00 สมาชิกทุกท่านพร้อมกันที่ บริเวณสำนักงาน TKT สนามเป้า (ติดกับสถานีBTS สนามเป้า ฝั่งอาคารยาคูลท์ ถ้ามาทางรถไฟฟ้าให้ลงทางออกที่ 3)
แผนที่เดินทาง >>>  >http://bit.ly/2GfTl1I
20.30 มุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน

วันที่หนึ่ง จุดตั้งแค้มป์ 1 ปางวัว (อาหารเช้า – กลางวัน-เย็น)
06.00 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าจ้า วันนี้เรามาสว่างที่ตัวเมืองน่าน เราจะหาข้าวเช้าเป็นแนวโจ๊กหมูร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมปาท่องโก๋และกาแฟโบราณอร่อย ๆ ทานกัน จากนั้นแวะไปซื้อเสบียงเพิ่มเติมที่ตลาดเช้าอ.เมืองน่านก่อน ใครอยากใส่บาตรเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนก็ได้จ้า

07.30 หลังจากนี้เราจะวิ่งเข้าสู่เส้นทางสายสันติสุข –บ่อเกลือหรือ ถนนลอยฟ้าแห่งเมืองน่าน เป็นถนนอีกสายหนึ่งที่เรียกได้ว่าเส้นทางสวยเกินบรรยาย เส้นทางคดเคี้ยวทอดยาวไปตามไหล่เขาตามแนวเส้นทางพรมแดนไทย – ลาว ยาวไกลมาก ดังนั้น ต้องทำเวลาช่วงแรกให้ไวหน่อย เพราะไกลพอสมควร เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวรถจะทำความเร็วมากไม่ได้ไปจนถึงที่บ้านสะไล ที่เราต้องใช้เส้นทางแห่งนี้ผ่านไปยังดอยแห่งความภาคภูมิใจ
ภาพตัวอย่าง – http://pantip.com/topic/32830456

10.30 เดินทางถึงป้อม ตชด. ปากทางเข้าหมู่บ้านสะไลน้อย จากจุดนี้เราจะจัดกระเป๋าสัมภาระที่จะนำขึ้นเขาให้เรียบร้อย สำหรับเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนขากลับให้ไว้บนรถตู้ได้เลย ทีมงานจะแจกข้าวห่อคนละ1 ห่อพร้อมน้ำดื่มคนละ 2-3 ขวด

จากนั้นเราจะปลี่ยนมานั่งรถกระบะเข้าไปยังตัวหมู่บ้านซึ่งเป็นจุดเริ่มเดิน ระหว่างทางเราจะเห็นภูเขาสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วย โมเสคสีเขียวของต้นไม้  ต้นข้าวและต้นข้าวโพด  สีเขียวแก่บ้าง  อ่อนสลับสีกันอย่างสวยงาม

11.00 เดินทางถึงจุดเริ่มเดิน พบกับทีมลูกหาบ รอทางทีมลูกหาบจัดแจงสัมภาระกองกลางกันสักพัก ก็ได้เวลาขึ้นเป้ออกเดินทาง .ใช้เวลาเดินเท้าวันแรก 4-5 ชม.

ช่วงแรก เราจะเดินลัดเลาะไปตามทุ่งนาบนเขาที่ชาวลั๊วะได้ใช้พื้นที่นี้หาเลี้ยงชีพและการประทังชีวิต

ช่วงที่สอง ผ่านหุบเขาและภูเขาซึ่งเป็นป่าดิบเขาที่เราต้องเผชิญต่อไป บรรยากาศและวิวสองข้างทางร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้นา ๆ ชนิด ตามทางเดินของชาวบ้านที่ออกไปหาของป่า สลับกับทุ่งหญ้าในระดับที่มากกว่า 1200 ม.จากระดับน้ำทะเล

12.00 พักทานข้าวห่อระหว่างทาง

ช่วงที่สาม ตะลุยเข้าป่าดิบชื้นและป่าห่มผ้าในระดับความสูงตั้งแต่ 1700 ม.ที่ มีลักษณะไม่ต่างจากดอยอินทนนท์ หรือป่าที่ผ้าห่มปกมีนกและสัตว์ต่าง ๆ มากมายที่หาได้ยากและต้องสังเกตดู

วันนี้พักที่ Camp 1 จะอยู่ระหว่างทาง ระดับความสูงประมาณ 1700 เมตร หรืออาจจะเป็นแค้มป์ที่บริเวณใกล้ลำห้วยเล็ก ๆ กลางป่าลึก ขึ้นอยู่กับว่าพรานจะพาเราไปทางไหนนะจ๊ะ

วันนี้จะเดินไม่หนักเกินไปเพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อน วันพรุ่งนี้พอแรงดีแล้วว่ากันใหม่ หรือหากใครยังแรงไม่หมด จะมาช่วยสตาฟเราทำกับข้าวก็ไม่ว่ากันจ้า

*** เราจะจัดเต็นท์ให้นอนหลังละ 2 ท่าน กรณีต้องการพักเดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 500 บาท
(เป็นค่าใช้จ่ายน้ำหนักสัมภาระกองกลาง / ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ / ค่าเสื่อมอุปกรณ์จ้า)

วันที่สอง พิชิตหลักกิโลที่ 37 สองแผ่นดินไทย – ลาว – จุดตั้งแค้มป์ 2 (อาหารเช้า กลางวัน เย็น)
05.30 เช้าวันนี้กับเครื่องดื่มร้อน ๆ สามารถที่จะขับความหนาวเย็นออกจากร่างกายได้บ้างกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้าที่ไกลโพ้นกับทะเลหมอกที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งขุนเขาของประเทศลาว

หลังจากทานอาหารเช้า และเก็บสัมภาระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางสตาฟจะแจกถุงเก็บขยะให้กับทางสมาชิกทุกคน เราจะช่วยกันเก็บขยะบริเวณรอบ ๆ แค้มป์หรือระหว่างการเดินเท้านำออกไปทิ้งด้านนอกที่ที่มีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบนะจ๊ะ “เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้ นอกจากความทรงจำและมิตรภาพที่ดี”

เส้นทางของวันนี้ต้องเดินตามรอยทางที่พรานได้นำเราไปอย่าเดินออกนอกเส้นทาง ดอยแต่ละลูกที่เราย่างก้าวขึ้นไปสามารถมองเห็นดินแดนฝั่งลาวได้อย่างชัดเจนซึ่งเป็นป่าดิบเขาที่หนาแน่นไปด้วยต้นไม้สลับกับทุ่งหญ้า ทำให้เราสังเกตเห็น ความแตกต่างระหว่างผืนป่าได้ (Ecotone)คือช่วงรอยต่อของป่าสองแบบ ทุ่งหญ้าที่เป็นเหลืองทองอมเขียว – หน้าฝนจะหนักไปทางเขียว) ที่ดูสวยงามไม่เหมือนที่ไหน และแล้วเราก็จะขึ้นถึงยอดภูเข้ได้สำเร็จ หลังจากที่เราต้องตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ ยอดภูเข้ ความสูง 2079 ม. เป็นที่ตั้งของหลักประเทศหลักที่ 37

หลังจากถ่ายรูปคู่กับหลักกิโลเมตรเพื่อเป็นหลักฐานว่า ข้ามาได้มาพิชิตภูเข้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเราจะตะลุยเข้าป่าดิบชื้นอีก ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นที่มีแต่มอส เฟิร์น และไลเคนที่เกาะติดอยู่จะชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของละอองหมอกที่หนาแน่นเรื่องไปกันหน้าร้อนไม่ต้องห่วง อากาศแถวนั้นเย็นตลอด จนถึงหนาวจัด ตามระดับสายตาเพียงไม่เกิน 10 เมตร ป่าข้างหน้าจะขาวโพลนไปด้วยหมอกที่ลงจัดแต่ก็ทำให้การเดินทางไปด้วยความสบายตัว กับสภาพป่าสองข้างทางที่เราต้องค้นหาด้วยความสนใจ

12.00 ทานข้าวกลางวันแบบห่อระหว่างทาง

บ่าย เดินทางกันต่อ ระหว่างทางเดินเราจะพักเติมน้ำที่ลำห้วย จากนั้นจะเดินลงเขาไปเรื่อย ๆก่อนจะหยุดแวะพักที่น้ำตกเล็ก ๆ เพื่อเรียกพลังเดินขึ้นเขาอีกลูกแบบระยะยาว เป็นการเดินขึ้นเขาแบบทางชันระยะยาวมาก ๆ ต้องฟิตกำลังขามาให้ดี

จากนั้นจะเดินทะลุขึ้นสันเขา เราจะเห็นวิวเปิดของภูเขานับสิบลูกวางเรียงตัวกันอย่างสวยงาม เดินตามสันเขาไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงจุดตั้งแค้มป์ที่ 2 ของวันนี้ และที่เราพักที่นี่แหละ

บรรยากาศยามอาทิตย์อัสดงที่สวยงามมากที่เกินจะบรรยาย ที่คุณ ๆ สามารถชมและบันทึกภาพพระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยภูแวที่อยู่ได้อย่างไม่ยากนักพร้อมกับหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งเชิงเขา โอ้..อะไรจะวิเศษอย่างนี้ และไม่มีที่ใดเหมือนกับอาหารที่หอมกรุ่นที่จะรอให้ท่านได้เข้ามาทาน (แฮ่ะ ๆ อาหารในป่านะคะ ก็เป็นแบบง่าย ๆ เด้อ) กับบรรยากาศที่แสนสบาย ก่อนที่เราจะเอนหลังหลับฝันดี… ซึ่งมีพื้นที่ราบไม่มากนักกับบรรยากาศที่หนาวเหน็บในตอนพลบค่ำ ละอองหมอกเริ่มจับตัวกันขึ้นที่ลอยอ้อยอิ่งตามหุบเขาและรอบ ๆ ตัวเรา แน่หละต้องหาฟืนมาก่อไฟ เพื่อทำกับข้าวและไล่ความหนาวเย็นในช่วงดึกกับฟืนที่เปียกชุมไปด้วยน้ำค้างและละอองหมอกที่ลงจัดท่ามกลางความเงียบสงบในแนวรอยต่อระหว่างไทย – ลาว ท่ามกลางความหนาวเย็นอาจทำให้ใครบางคนไม่อยากจะลุกตื่นขึ้นมารับอรุณยามเช้า และอาจทำให้ใครบางคนนอนไม่หลับ เนื่องจากอากาศที่เย็นจัดตลอดทั้งคืน(แม้จะเป็นหน้าฝน หรือหน้าหนาวก็ตาม ย้ำ)

หมายเหตุ จุดตั้งแค้มป์วันที่ 2 นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกำลังแรงเดินของสมาชิกผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน หากเราเดินช้าจุดตั้งแค้มป์วันที่ 2 เราอาจจะเลือกตัดลงหุบเขาแล้วไปตั้งแค้มป์ริมน้ำ หากเราตั้งแค้มป์นี้ตอนเช้าเราจะไม่ได้เห็นวิวภูเขานะจ๊ะ

วันที่สาม อำลาดอยภูเข้ (อาหารเช้า กลางวัน เย็น)
06.00 รับอรุณกับทะเลหมอกยามเช้าพร้อมกับเครื่องดื่มร้อน ๆ ที่แสนจะโรแมนติก ที่ใครๆต้องออกมาสูดกลิ่นไอแห่งความเย็นและบริสุทธิ์กันอีกครั้งพร้อมกับการบันทึกภาพที่ไม่ควรพลาด พระอาทิตย์ที่ทอแสงอุ่นๆ กับอาหารเช้าที่โชยกลิ่นหอมกรุ่น..

เช้านี้ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก สัมผัสบรรยากาศกันที่นี่ให้สุด ๆ จากนี้ไปเราจะเดินลงผ่านขุนเขาที่เราเห็นกันตั้งแต่วันแรกกับพืชสมุนไพรที่อยู่ประปรายที่ชาวบ้านนำไปทานเป็นยาซึ่งเราไม่รู้จักมาก่อน

12.00 รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง แบบห่อ เดินทางกันต่อ

หมายเหตุ หากทางทีมเราสามารถทำเวลาการเดินได้ดี เราอาจจะได้เดินมาเส้นทางน้ำตกรางจาล น้ำตกขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ผืนป่า เราจะแวะเล่นน้ำตกกันสักพักก่อนเดินเท้าออกจากป่า แต่หากผู้ร่วมคณะเดินทางไม่ไหว ซึ่งกรณีนี้ก็ต้องของดการเดินเข้าน้ำตก

15.00 เดินลงมาถึงจุดบริเวณที่นัดกับทางรถกระบะ (จุดนัดรถอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับว่าพรานพาเราเดินเส้นไหนจ้า) เราจะนั่งรถกระบะไปยังป้อม ตชด. รับน้ำอัดลมจากทีมงานดื่มให้ชื่นใจกันก่อน จากนั้นโบกมืออำลาภูเข้ แล้วออกเดินทางไปอาบน้ำให้ชุ่มใจหลังจากอาบเหงื่อต่างน้ำกันมา  2 วัน 2 คืนเต็ม ๆ ที่อุทยานแห่งชาติขุนน่าน หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเราจะมุ่งหน้าสู่อ.เมืองน่าน เพื่อไปรับประทานอาหารเย็นอร่อย ๆ กัน

19.00 รับประทานอาหารเย็น กันที่ร้านอาหารเฮือนฮอม หรือร้านสุริยาการ์เด้น หรือร้านอาหารตงทิพย์ หรือร้านอาหารเฮือนเจ้านาง เมื่อท้องอิ่มแล้วก็ได้เวลามุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพมหานคร

04.00 เดินทางกลับถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัยและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

หมายเหตุ โปรแกรมทริปอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยที่มิต้องแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากสภาวะอากาศและปัจจัยอื่นๆอีกมากที่อาจทำให้การเดินทางไม่เป็นไปตามแผน และควบคุมไม่ได้ แตทางเราจะยึดมั่นถึงความสุขและรอยยิ้มของท่านเป็นสำคัญ

ราคาทริปท่านละ : 5000 บาท (แบกสัมภาระส่วนตัว+ถุงนอนเอง)

option :
1. กรณีเดินทางไปเจอทีมงานที่ป้อม ตชด. ทางเข้าหมู่บ้านสะไลน้อย จ.น่าน ราคาท่านละ 3600 บาท
**ทั้งนี้ต้องมีสมาชิกออกเดินทางจากกรุงเทพฯ 5 ท่านจึงจะการันตีการออกเดินทางได้จ้า
*ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้าในวันแรกของการเดินทางและมื้อเย็นวันกลับ
**รับแบบเดินทางเองไม่เกิน 2 ท่าน/ตู้**
2. ที่นี่ไม่มีบริการลูกหาบสำหรับแบกสัมภาระส่วนตัว เนื่องจากข้อจำกัดของลูกหาบในพื้นที่
3. สมาชิกตลอดชีพ ได้ส่วนลด 150 บาท/ทริป
(ค่าสมัครสมาชิกตลอดชีพ 500 บาทต่อท่าน เหมาะกับท่านที่จะเที่ยวกับเราหลายๆทริปต่อเนื่อง ได้รับของที่ระลึกและข่าวสารทัวร์ใหม่ๆ พร้อมสิทธิในการไปกับทริปพิเศษต่างๆ)
4. กรณีต้องการพักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 500 บาท (จัดเต้นท์เดี่ยวให้)

ถ้ามีสมาชิก 6 ท่าน ต้องการจะเป็นกรุ๊ป Private ท่านสามารถกำหนดวันจัดเองได้ แต่ต้องโอนมัดจำมาล่วงหน้า 3 อาทิตย์ก่อนเดินทาง เพื่อเตรียมตัว หรือ หากจะไปวันธรรมดาก็ได้สามารถเปิดรับสมัครสมาชิกเพิ่มเพื่อลดค่าใช้จ่ายก็ได้ราคากรุ๊ปเหมาจะคิดตามจำนวนคน ณ วันไปจริง(โปรดสอบถาม)
**ก่อนไปควรประเมินตนเอง ถ้าร่างกายแข็งแรง (แบบ คนปกติคือไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายบ่อย ๆ ) ก็โอเคจ้า แต่แจ้งไว้ก่อนน้า ว่าทริปนี้มีเฉพาะลูกหาบกองกลางเท่านั้นนะจ๊ะ
** ธรรมชาติ คือ ธรรมชาติ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คนที่ไป ควรเข้าใจธรรมชาตินะค่ะว่า ไม่ใช่ของปรุงแต่ง ที่เราจะควบคุมเหนือเขาได้ ดังนั้น ถ้าท่านชวนเพื่อนมา พิมพ์ไปให้เขาอ่าน เข้าใจ และตกลงใจก่อนสมัครมานะค่ะ **

อัตรานี้รวม
– ค่ารถตู้ TOYOTA COMMUTER D4D รุ่นใหม่ 9 ที่นั่ง
– ค่าที่พัก 2 คืน เต็นท์ +ถุงนอน ไม่มีแผ่นรองนอนนะจ๊ะ
หมายเหตุ ใครไม่มีเต็นท์และถุงนอน มีจัดให้ฟรี ช่วยแจ้งในใบสมัครทริปเข้ามาด้วยจ้า
– ลูกหาบกองกลาง (แบกเต็นท์ / อาหารสำหรับกองกลางเท่านั้น)
– ค่ารถกระบะขนสัมภาระและสมาชิกจากปากท้องเข้าหมู่บ้านไปจุดเริ่มเดิน
– คนนำทางพื้นที่
– อาหาร 9 มื้อตามโปรแกรม
– สตาฟดูแลท่านตลอดการเดินทาง
– ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามรายการ
– ประกันอุบัติเหตุท่านละ 1,000,000 บาท
– ค่าจัดการขยะ นำขยะจากบนเขาลงมาจัดการด้านล่าง – เรารณรงค์ให้ทุกคณะนำขยะออกจากพื้นที่ให้หมด เพื่อความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยว
– หลากหลายกิจกรรมเฉพาะที่ทีเคทีพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างความสนิทในกลุ่มสมาชิกที่ไปด้วยกันและสร้างความภูมิใจที่ได้เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น Wow Dinner/Networking night/กอดต้นไม้/พาน้องขยะกลับบ้าน
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

อัตรานี้ไม่รวม
– ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

จากนั้นให้พิมพ์ใบสมัครทริปที่ลิงค์ด้านล่าง แล้วส่งทาง

จันทร์ – ศุกร์ ช่วงเวลา 10.00 – 19.00 น.

แชทกับเราได้ง่ายๆ และ ได้ข่าวดีๆก่อนใครไลน์ @trekkingthai กดแอดได้เลย

โทรจองได้ที่ 02-2780225/ 02-6197993 / 02-6171775

---

…………………………

[/tab] [tab title=”ภาพ/วีดีโอตัวอย่าง”] [/tab] [tab title=”รายละเอียดที่พัก/อาหาร”]

ที่นอนหลับพักผ่อนในทริปนี้

ที่พักคืนหนึ่งและคืนสอง กางเต็นท์นอนท่านละ 2 ท่านต่อหลัง

ในกรณีที่ท่านจะให้เราเตรียมเต็นท์ และถุงนอน ให้กรุณาแจ้งเรามาด้วยนะค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
*** เราจะจัดเต็นท์ให้นอนหลังละ 2 ท่าน กรณีต้องการพักเดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 500 บาท
(เป็นค่าใช้จ่ายน้ำหนักสัมภาระกองกลาง / ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ / ค่าเสื่อมอุปกรณ์จ้า)

รายการอาหารของทริปนี้ที่ทางเราเคยจัดให้แบบคร่าว ๆ เอามาเล่าให้น้ำลายไหลกัน ^^

วันที่ 1 ของการเดินทาง

เช้า โจ๊กร้อน ๆ พร้อมปาท่องโก๋ เสิร์ฟคู่กับกาแฟโบราณที่ตลาดเช้าอ.เมืองน่าน
กลางวัน ข้าวห่อ เช่น ข้าวเหนียวหมูทอดหรือย่าง หรือข้าวมันไก่ หรืออื่น ๆ
เย็น สตาฟจัดทำอาหาร + ของหวาน เช่น สปาเก็ตตี้ / กุ้งอบวุ้นเส้น / หมูหวาน / น้ำพริกกะปิ ไข่ชะอม / กล้วยตากบวชชี / ฟักทองบวชชี ฯลฯ
(แล้วแต่สตาฟจัดทำ)

วันที่ 2 ของการเดินทาง

เช้า ข้าวผัด / ข้าวต้ม/แซนวิส / ขนมปัง แยม (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
กลางวัน ข้าวห่อ เช่น ข้าวผัด (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
เย็น สตาฟจัดทำอาหาร + ของหวาน เช่น สปาเก็ตตี้ / กุ้งอบวุ้นเส้น / หมูหวาน / น้ำพริกกะปิ ไข่ชะอม / กล้วยตากบวชชี / ฟักทองบวชชี ฯลฯ
(แล้วแต่สตาฟจัดทำ)

วันที่ 3 ของการเดินทาง

เช้า ข้าวผัด / ข้าวต้ม/แซนวิส / ขนมปัง แยม (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
กลางวัน ข้าวห่อ เช่น ข้าวผัด / กะเพรา (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
เย็น ร้านอาหารเฮือนฮอม หรือร้านอาหารสุริยาการ์เด้น / ร้านอาหารตงทิพย์ / ร้านอาหารเฮือนเจ้านาง เป็นอาหารแบบเซตโต๊ะ

หมายเหตุ หากมีท่านใดที่แพ้อาหารบางชนิด / ทานอาหารบางอย่างไม่ได้ เช่น ไม่ืทานเนื้อ เป็นมังสวิรัติ ไม่ทานเผ็ด รบกวนแจ้งให้ทางเราด้วยนะค่ะ เพื่อที่ทางเราจะได้จัดการอาหาร ให้มีความเหมาะสมกับท่านนะค่ะ เพราะเราปรารถนาให้ท่านได้เที่ยวอย่างสนุกกับการเรียนรู้สิ่งรอบ ๆตัว ท้องอิ่ม และนอนหลับสบายค่ะ
…………………………
[/tab] [tab title=”คำแนะนำการเตรียมตัว”]

การเตรียมตัวทริปภูเข้่

1 เครื่องแต่งกายสำหรับทริปนี้

กางเกง : กางเกงขายาว เนื้อผ้าหนาหน่อย จะดีมากค่ะ ทริปนี้ไม่แนะนำกางเกงยีนส์นะค่ะ เพราะจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด และหนักตัวเวลาเดินค่ะ

เสื้อ : เป็นเสื้อยืดแขนยาว หรือแขนสั้นก็ได้จ้า สีสันได้ตามสะดวกเลย แต่ถ้าจะให้ถ่ายรูปออกมาดูดี กิ๊บเก๋ ต้องเน้นสีสด ๆ แต่ถ้ามีปลอกแขนจะดีมาก ๆ เลย เพื่อป้องกันการถูกขีดข่วนจากหนามต่าง ๆ

รองเท้า : ควรจะเตรียมรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อและมีดอกยางลึกพอสมควรนะค่ะ เพราะหนทางค่อนข้างชัน และลื่น

ถุงเท้า : ควรเตรียมถุงเท้ายาว และหนาไปใส่ด้วยนะค่ะ เพราะการเดินป่าระยะไกลนั้น โดยไม่ใส่ถุงเท้านั้นจะทำให้เท้าที่เสียดสีกับรองเท้าเป็นเวลานาน เกิดการพองและเป็นแผลถลอกได้ค่ะ

ถุงกันทาก/สเปรย์กันทาก : ป่าที่ภูเข้นี้มีน้องทากค่อนเยอะ หากท่านใดกลัวทาก ก็เตรียมถุงกันทาก หรือสเปรย์สำหรับกันทากมากันนะค่ะ

เสื้อกันฝน : แน่นอนว่าเราไปเดินป่าช่วงหน้าฝน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องเจอแน่นอนก็คือสายฝน ดังนั้นการเตรียมตัวป้องกันเปียกไว้ก่อนก็ทำให้การเดินป่ามีความสุขขึ้นนะค่ะ

เสื้อกันหนาว : อากาศที่ภูเข้นี้ หนาวเย็น – หนาวจัดเกือบทั้งปี ดังนั้นเสื้อกันหนาวจึงเป้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ

2 กระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระ ควรจะแยกออกเป็น 2 ใบ ดังนี้

2.1 กระเป๋าสำหรับใส่เสื้อผ้า /เครื่องสำอางค์/อุปกรณ์อาบน้ำ แนะนำให้เป็นเป้ใบเล็ก ๆ สำหรับใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำตอนขากลับลงจากภูเข้ค่ะ โดยเราจะเก็บกระเป๋าใบนี้ไว้บนรถตู้ค่ะ

2.2 กระเป๋าเป้ที่เอาขึ้นภูเข้ ภายในกระเป๋าจะเป็นสัมภาระที่จำเป็นเท่านั้น ย้ำ!!! นะค่ะ เฉพาะสัมภาระที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้นนะค่ะ เช่น ถุงนอน เสื้อกันหนาว กระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ ให้ห่อสัมภาระ
ทั้งหมดด้วยถุงพลาสติก เพื่อป้องกันน้ำเวลาฝนตกหรือโคลน แล้วคลุมเป้ด้วย Rain Cover อีกทีหนึ่งค่ะ

3 ไฟฉายคาดหัว / ไฟฉา่ยแบบถือ ในป่าไม่มีไฟฟ้าใช้นะค่ะ ดังนั้นเราควรติดไฟฉายไปด้วย เพื่อที่เวลาจะเดินไปหาของ หรือทำภาระกิจส่วนตัวจะได้สะดวกจ้า

4 กล้องถ่ายรูปที่มีซองกันน้ำ ไว้เก็บภาพสุดประทับใจ

5 เปิดตา เปิดใจสำหรับสิ่งรอบ ๆ ตัว ที่ท่านจะได้ไปสัมผัสจากทริปนี้

…………………..

รู้ไว้ก่อนไปกับเรา…กติกาในการไปทัวร์เชิงนิเวศกับ ทีเคที อีโคทัวร์ จ้ะ (Responsible Travel Tips)

เพื่อ การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อให้การท่องเที่ยวของเราไม่ทำร้ายธรรมชาติมากเกินไป เราขอร้องให้นักท่องเที่ยวที่เลือกใช้บริการของเรา ช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะ นำที่ดังนี้ …

1. ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง หากท่านชวนเพื่อนไป เพื่อนของท่าน อาจยังไม่ทราบ อาจยังมีแนวคิดว่าไปเที่ยวป่า ก็สามารถทำตนเหมือนเที่ยวเมืองได้ การแลกเปลี่ยนข้อมูล จะทำให้ท่านทราบสภาพพื้นที่ และเที่ยว พัก ชมธรรมชาติได้สนุกขึ้น

2. แต่งกายเหมาะสม เนื่องจากทริปนี้มีทั้งบุกป่าฝ่าดง และลุยน้ำ เสื้อผ้าที่ใส่จึงควรเป็นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วคล่องตัว ไม่อึดอัด ไม่รุ่มร่าม ส่วนยีนส์นั้นไม่แนะนำให้ใส่เด็ดขาดค่ะ รองเท้าควรจะเป็นรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ มีดอกยางลึก

3. กรุณาช่วยลดของเสียและขยะ ด้วยการลดการนำพลาสติค หรือ ภาชนะโฟม หรือ สิ่งไม่จำเป็นเข้าไป อะไรที่ใช้ซ้ำได้ก็แนะนำให้ใช้ซ้ำ

4. ไม่ทิ้งขยะในป่า หรือในน้ำ ขยะที่เกิดจากสารเคมีสังเคราะห์เช่น พลาสติค เป็นวัสดุที่ควรนำออกมากำจัดนอกป่า

5. ไม่ซื้อของป่า สัตว์ป่า ไม่เบียดเบียนชีวิตในป่า เพื่อความสนุกสนานหรือคึกคะนอง

6. ร่วมสนับสนุนท้องถิ่น ด้วยการอุดหนุนขนม อาหารของท้องถิ่น ที่ระลึก แม้มีแพคเกจจิ้งไม่สวยเท่าร้านหรูในเมืองก็ตาม เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนที่เราไปเยือนโดยตรงนั่นเอง เช่น

7. เรียนรู้ สอบถาม ไกด์และไกด์ท้องถิ่นในเรื่องราวของนิเวศวิทยาและธรรมชาติ แม้เป็นทริปที่ดูสบาย ๆ ท่านก็จะได้ความรู้และเข้าใจในทัวร์ เราอยากให้ท่านได้รับประสบการณ์จากการเดินทาง นอกเหนือจากการได้ความบันเทิง อย่างเดียว

ที เคที อีโคทัวร์ ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่านแทนธรรมชาติ ที่ท่านเข้าไปเยือนอย่างเคารพและเข้าใจ .. ขอให้ทุกท่านสนุกกับกิจกรรมทัวร์เชิงนิเวศกับเราครับ ป่าเขาและท้องถิ่นห่างไกลยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จิตใจดีงามทุกคน…

[/tab] [tab title=”แผนที่เส้นทาง และ ระดับความยากของทริปนี้”]

**** ระดับดาวความง่าย – ยากของระดับการเดินป่า

ทริปนี้ เราจัดในระดับ 3.5

—แผนที่สำหรับทริปนี้ไม่มีจ้า  เนืองจากเส้นทางทริปสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา—

1 ดาว เดินป่าระดับง่ายมาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน ผู้เดินทางไม่ต้องแบกสัมภาระเอง และที่จุดตั้งแค้มป์มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวกครบครัน ผู้ที่เดินทางไปไม่ต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอด

2 ดาว เดินป่าระดับง่าย คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองบ้างบางส่วน ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองบ้างนิดหน่อย

2.5 ดาว เดินป่าระดับง่ายแต่ได้ใช้ทักษะ คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองบ้าง ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองเพิ่มเติม เช่น ปีนรากไม้ ไต่เชือก ล่องแก่ง หรือทักษะการดำรงชีพระดับต้นเพิ่มเติมจากทริประดับง่าย

3 ดาว เดินป่าระดับกลาง คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน อาจจะมีการย้ายแค้มป์ ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองบ้างบางส่วน ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองบ้างนิดหน่อย

3. 5 ดาว เดินป่าระดับกลาง – ยาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน อาจจะมีการย้ายแค้มป์ “ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด” ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่ อาจต้องปีนป่าย นอนเปล ไม่ได้อาบน้ำ ความสะดวกน้อย

4 ดาว เดินป่าระดับยาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 2วันเป็นต้นไป มีการย้ายแค้มป์ ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่

4.5 ดาว เดินป่าระดับยากมาก(ทริปสำรวจ) คือ เส้นทางเดินป่าที่ทางผู้จัดยังไม่มีข้อมูลในการจัดเส้นทางที่แน่ชัด เส้นทางจุดตั้งแค้มป์อาจมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 2วันเป็นต้นไป มีการย้ายแค้มป์ ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่

ปล. เกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์ที่ทางทีมงาน TKT กำหนดนิยามขึ้นมาเองเพื่อเป็นเกณฑ์ในการชี้แจงระดับความง่าย – ยากในการเดินป่า เพื่อให้ผู้ที่ร่วมเดินทางกับเรามองภาพการเดินป่าและประเมินศักยภาพตนเองได้ง่ายมากขึ้น โดยใช้ประสบการณ์การจัดทริปที่ผ่านมามากกว่า 17 ปี ในการกำหนด ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละกลุ่ม
[/tab] [tabs]

————————————————————-
ผู้สนใจจองหรือสอบถามมาได้เลย
ติดต่อสอบถาม ให้กรอกข้อมูลแล้วเราจะตอบกลับไปให้ทราบ
(ระมัดระวังตรงกรอกอีเมล์ให้ถูกต้องนะจ๊ะ)