ทัวร์ภูสอยดาว เดินป่าบนทะเลทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย

ทัวร์ภูสอยดาว  เดินป่าบนทะเลทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย การเดินทางไปจัดโดย TKT ECOTOUR by Trekkingthai.com ปี 2562

ตอนนี้เราย้ายเว็บไซต์การจองทัวร์ไปหน้านี้แล้วจ้า >>> https://tour.trekkingthai.com/product/ภูสอยดาว/

ไปภูสอยดาวให้แห้งสบายกว่าใคร กับ ทีมงาน TrekkingThai  ที่จะเนรมิตรแค้มป์นอนให้สบายใจทุกการหลับนอน  ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องพายุฝนบนภูสอยดาว  ด้วยประสบการณ์การจัดการแค้มป์ที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี   เรามีความชำนาญในการประเมินพื้นที่ตั้งแค้มป์ให้นอนสบายและแห้งที่สุด  เรามีองค์ความรู้ในการเซตแค้มป์ให้แข็งแรงรองรับแรงลมพายุฝนบนภูสอยดาวที่ขึ้นชื่อเรื่องความอภิมหาโหดของสายฝน   อิ่มอร่อยด้วย ไลน์อาหารสุด Exclusive ด้วยฝีมือการทำอาหารของ Camping Chef มากฝีมือของเราที่ใคร ๆ ต่างก็ยกนิ้วให้กับทีมงานของเรามาตลอดหลายสิบปีว่า “มากับ TKT ไม่ต้องกังวลเรื่องความหิวเลย”   เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสช่วงเวลาพิเศษแห่งปี กับทะเลทุ่งดอกหงอนนาค  ราชินีดอกไม้เจ้าน้ำตา ที่สวยที่สุดท่ามกลางหมอกจางๆ ที่ปกคลุมทั่วลานสนสามใบบนภูสอยดาว เลือกมุมสุดตราตรึงของน้ำตกมอส “น้ำตกสายทิพย์” เพื่อให้ได้ภาพสุดพิเศษของสายน้ำสีขาวใสที่ตกกระทบกับก้อนหินสีเขียวที่เต็มไปด้วยมอสและเฟิร์น ตัดกับสีแดงของใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นประปรายอยู่กระจายทั่วน้ำตก  ซึ่งเราจะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ในช่วงหน้าฝนเท่านั้น

Highlight ทัวร์ภูสอยดาว หน้าฝน :

ไปกับ TKT แตกต่างอย่างไร คุ้มค่ากับตัวเราเองไหม?

  • ด้วยประสบการณ์การจัดทัวร์เดินป่าเชิงอนุรักษ์มายาวนานกว่า 20 ปี เรามีทีมงานที่พร้อมจัดการทริปที่คุณวางใจได้  ไม่ว่าจะความรู้ในการเซตอุปกรณ์พักแรมที่เหมาะกับสภาพอากาศบนภูสอยดาว  เรามีความชำนาญในการผ่อนเรื่องหนักให้เป็นเรื่องเบา
    • เบาใจเรื่องความปลอดภัยจากการนอนแช่น้ำ ด้วยเต็นท์ที่มีฟลายชีทกันน้ำอย่างดี   พร้อมฟลายชีทชั้นที่ 2 คลุมเต็นท์ทั้งหลังอีกที ปูรองพื้นเต็นท์ด้วยกราวชีท  เพื่อไม่ให้ความชื้นความมาในตัวเต็นท์   ภายในเต็นท์มีแผ่นรองนอนเพื่อให้เพิ่มให้ท่านนอนหลับสบายเหมือนนอนที่บ้าน ท่านจึงเบาใจได้ว่าการไปนอนแค้มปิ้งบนภูสอยดาวของท่านจะไม่นอนแช่น้ำแน่นอน  การันตี “ความปลอดภัยและแห้งสบายระดับสูงสุดของการแค้มปิ้ง”
    • เบาเงินในกระเป๋าด้วยไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์แค้มปิ้งเพิ่มอีกแล้ว   เพราะแพคเกจของเรามีบริการถุงนอน-แผ่นรองนอน-แผ่นรองนั่ง-กราวชีท+ เครื่องกรองน้ำส่วนกลาง + เสื้อกันฝนลำลอง ให้ท่านเรียบร้อยแล้ว
  • ยกระดับความสุนทรียะของการแค้มปิ้งบนภูสอยดาวด้วย Morning Coffee Station ด้วยกาแฟดริฟสุดเข้มข้น กลิ่นหอมเตะจมูก  เสิร์ฟคู่กับขนมปังอร่อย ๆ สไตล์ European breakfast ในยามเช้า
  • อิ่มอร่อยจัดเต็มกับLine อาหารสไตล์แค้มปิ้งที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา  เพราะได้รับการ
    การันตีจากสมาชิกที่เคยร่วมทริปกับเรามานานหลายสิบปี  และ Surprise ไปกับ Wow menu ที่ทีมสตาฟเราตั้งใจจัดเตรียม
  • ถ่ายภาพสวย ๆ ท่ามกลางทุ่งทะเลดอกหงอนนาคราชินีดอกไม้เจ้าน้ำตาแห่งลานสนสามบนของภูสอยดาว ซึ่งจะผลิบานแย้มความงามให้นักท่องเที่ยวได้เชยชมกันในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม ของทุกๆปีในช่วงเวลานี้เท่านั้น
  • เดินเที่ยวเก็บภาพบรรยากาศภูสอยดาวหน้าฝนได้ครบทุกไฮไลต์แบบสบายๆ ชาร์จพลังจากธรรมชาติได้เต็มที่  ชนิดไม่ต้องเสียดายหากไม่คิดอยากกลับไปอีก ไม่ว่าจะเป็นโรแมนติคของหมอกจางๆ ที่ปกคลุมทั่วทุ่งดอกหงอนนาคบนลานสนสามใบและเก็บภาพน้ำตกสายทิพย์ น้ำตกสีขาวใสที่ไหลผ่านกองหินที่ถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียวครึ้ม ที่จะเป็นเที่ยวได้เฉพาะช่วงหน้าฝน
  • ไปกับเราเดินขึ้นภูสอยดาวแบบสบายๆ ให้พลิ้วไหวเหมือนสายลม เพราะในแพคเกจของเราได้รวมค่าน้ำหนักสัมภาระส่วนตัวของแต่ละท่านให้ลูกหาบได้ช่วยแบกขึ้นไปยังลานสน  เพื่อช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีรายได้เพิ่มขึ้น  โดยเรามีโควต้าทั้งขาขึ้นและขาลงให้ท่านไม่เกิน 5 กิโลกรัม  กรณีที่น้ำหนักเกินทางเราขอคิดค่าใช้จ่ายตามจริง(กิโลกรัมละ 30 บาท /  รอบขึ้นกิโลกรัมละ 30 บาท – รอบลงกิโลกรัมละ 30 บาท)
  • เรามีวิสัยทัศน์ที่จะที่ให้การไปท่องเที่ยวแค้มปิ้งในป่าเป็น Green Camping ให้ได้มากที่สุด โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้วเราได้เริ่มกิจกรรม “พาน้องขยะกลับบ้าน” ร่วมกับสมาชิกที่ร่วมทริปกับเราทุกคน  และเรายังคงทำต่อไป… ร่วมกับ “กิจกรรมกอดต้นไม้ เพื่อนรัก” กิจกรรมที่ทำให้เราขอบคุณ “คุณต้นไม้” ที่ทำให้เรามี “ป่า” ได้ไปเติมพลัง  และเราจะยังไม่หยุดแค่นี้   เราจะเดินหน้าต่อด้วยการเริ่มใช้วัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ใช้ซ้ำได้ในการไปแค้มปิ้งให้มากที่สุด เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก ให้มากที่สุด  และเรายังให้สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกที่เตรียมขวดน้ำดื่มแก้วกาแฟ  รวมไปถึงกล่องข้าวมาเองอีกด้วย

เดินป่าภูสอยดาวหน้าฝน … จะไปดีเหรอ?

ไปเดินป่าหน้าฝนหลายคนคงนึกถึงภาพเฉอะแฉะของสายฝนที่เทกระหน่ำ  แต่สำหรับ
ภูสอยดาวแล้ว  ช่วงหน้าฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม – ตุลาคมนี้ เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการไปเดินป่าเพื่อเก็บภาพความสวยงามของที่นี่

ขอขอบคุณรูปภาพจากสมาชิกที่ร่วมทริปกับเราจ้ะ

ในช่วงหน้าฝนเราจะได้ไปเริงร่ากับทุ่งดอกหงอนนาค นางเอกเจ้าน้ำตาบนภูสอยดาว เก็บภาพทุ่งดอกไม้สีม่วงอ่อนดอกน้อยที่ผลิบานโบกสะบัดความงามกลางลานสนใหญ่ ตระหง่านอยู่กลางทุ่งบนภูสูง  ยามฝนพรำ สายหมอกจะลอยมาให้สัมผัสราวกับเดินเล่นอยู่ในสวรรค์

ระยะเวลาการจัดทริป : 3 วัน 2 คืน ไม่นับวันเดินทาง

Rating อายุ :
เด็ก : อายุ 13 ปีขึ้นไป (ผู้ปกครองดูแลใกล้ชิด)
ผู้ใหญ่ : 20-60 ปี
ผู้สูงวัย : 60 ปึขึ้นไป (ร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง)

ราคาทริปท่านละ : (อยากไปเดินป่า ภูสอยดาว ราคาไหน เลือกได้เลย)

  • เดินป่าแบบสบายๆ เตรียมไปแค่ของส่วนตัว เพราะเราเตรียมให้หมดแล้ว แต่ต้องแบกถุงนอนและสัมภาระส่วนตัวเองนะจ๊ะ
    ราคาทริปท่านละ : 4603.5 บาท (VAT 7%  346.5 บาท )  รวมเป็นเงินเท่ากับ  4950 บาท (รวมโควต้าค่าลูกหาบช่วยแบกสัมภาระส่วนตัว 5 กิโลกรัม/ท่าน กรณีที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มตามจริงหน้างาน)
    ราคานี้รวมอะไรบ้าง ?
    – ค่ารถตู้ TOYOTA COMMUTER D4D รุ่นใหม่ 9 ที่นั่ง
    อาหาร 9 มื้อ (ครบทุกมื้อ) อิ่ม-อร่อย ไม่มีมาม่า ปลากระป๋อง
    ค่าลูกหาบแบกสัมภาระไป – กลับ ไม่เกินรอบละ 5 กิโลกรัม มูลค่า 30 X 5 กิโล x 2 รอบ = 300 บาท (หากน้ำหนักเกินจ่ายเพิ่มตามจริง กิโลกรัมละ 30 บาท) -วันเดินทางมาลองชั่งและจัดของได้ที่จุดออกทริปก่อนได้จะได้รู้น้ำหนักไปก่อนและจัดสัมภาระตั้งแต่ก่อนเดินทาง

    เต็นท์  แผ่นรองนอนฟรอยด์ แผ่นรองนั่งที่พัฒนาโดยทีมงานของเราเอง  เพื่อช่วยให้ก้นไม่เปียกและเลอะตอนนั่งที่แค้มป์  เพราะฝนที่นี่มักตกตลอด – ลูกหาบแบกให้
    ถุงนอน (แบกเอง)
    อุปกรณ์กันฝน อุปกรณ์กองกลางเพื่อการแค้มปิ้งอย่างมีความสุข กราวน์ชีทกลาง-กราวน์ชีทในเต็นท์(ช่วยลดปัญหาน้ำซึมจากด้านล่างตอนฝนตก)-ฟลายชีต 2 ชั้น(เต็นท์+ฟลายชีตเสริมทำให้กันฝนได้ดีขึ้น) -เครื่องกรองน้ำกองกลาง – ยาที่ใช้บ่อย

    เราจัดเสื้อกันฝนให้แบบฟรี ๆ ด้วยนะ
    – ค่าลูกหาบกองกลาง
    – ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามรายการ
    – ค่าเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดการเดินทาง
    – ค่าประกันอุบัติเหตุ 1,000,000 บาท / ท่าน
    ค่าจัดการขยะ นำขยะจากบนเขาลงมาจัดการด้านล่าง
    – เรารณรงค์ให้ทุกคณะนำขยะออกจากพื้นที่ให้หมด เพื่อความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยว
    – หลากหลายกิจกรรมเฉพาะที่ทีเคทีพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างความสนิทในกลุ่มสมาชิกที่ไปด้วยกันและสร้างความภูมิใจที่ได้เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น Wow Dinner/Networking night/กอดต้นไม้/พาน้องขยะกลับบ้าน
    – ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • Plus+ เดินป่าให้สบายมากขึ้นไปอีก  เรามี Options เสริมให้กับเพื่อนๆ ที่ต้องการความสบายที่มากกว่า 

    • นอนเต็นท์เดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 500 บาท (เราจัดเต็นท์ขนาด 2 คนนอน หรือ 210 x 150 x 135ซม. มีลูกหาบแบกให้
    • แผ่นรองนอนแบบพองลมเอง K2 หนาขึ้น นอนสบายมากขึ้น มีลูกหาบแบกให้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 200 บาท
  • ส่วนลด  สำหรับท่านที่มีอุปกรณ์ส่วนตัวพร้อมแล้ว
    • ส่วนลดสมาชิกตลอดชีพ ได้ส่วนลด 150 บาท/ทริป(ค่าสมัครสมาชิกตลอดชีพ 500 บาทต่อท่าน เหมาะกับท่านที่จะเที่ยวกับเราหลายๆทริปต่อเนื่อง ได้รับของที่ระลึกและข่าวสารทัวร์ใหม่ๆ พร้อมสิทธิในการไปกับทริปพิเศษต่างๆ)
    • กรณีขับรถเดินทางไปเจอกับทีมงานเอง นัดเจอกันที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว   ราคาท่านละ 3852 บาท
      **ทั้งนี้ต้องมีสมาชิกออกเดินทางจากกรุงเทพฯ 5 ท่านจึงจะการันตีการออกเดินทางได้จ้า
      *** ราคานี้ไม่รวมอาหารมื้อเย็นวันเดินทางกลับและค่ารถตู้เดินทางไป-กลับกรุงเทพฯ-อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (ซึ่งถ้าสมัครแบบไปจากกทมจะรวมให้ทั้งหมด)
      **รับแบบเดินทางเองไม่เกิน 2 ท่าน/ตู้**
    • นำถุงนอนไปเอง และแบกเอง มีส่วนลด 150  บาท  (ถุงนอนที่เราเตรียมให้  ท่านก็แบกเองเช่นกันนะคะ)
    • นำเต็นท์ไปเองและให้ลูกหาบส่วนกลางของเราแบกให้ มีส่วนลด 200 บาท (สำหรับเต็นท์ขนาดไม่เกิน 210 x 150 x 135ซม. หรือน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม)
    • นำเต็นท์ไปเองและแบกเอง มีส่วนลด 400 บาท (แนะนำเต็นท์ควรมีขนาดไม่เกิน 210 x 150 x 135ซม. เพื่อให้สะดวกต่อการแบกและง่ายต่อการหาพื้นที่กางเต็นท์ได้ง่าย) ***  ที่นี่มีระยะการเดินเท้าเฉลี่ย 3-5 ชั่วโมง  มีจุดที่สามารถพักได้ระหว่างทาง
    • ไม่ต้องการแผ่นรองนอน มีส่วนลด 50 บาท(ในราคาแพคเกจเต็ม ทีมงานจะจัดแผ่นรองนอนเสื่อฟอยล์ที่มีความบาง แต่กันความชื้นจากผืนดิน และกันน้ำซึมย้อนจากผืนดินได้ดี
    • นำจาน หรือกล่องข้าวส่วนตัว – ช้อน – แก้วน้ำ และขวดน้ำดื่มมาเอง มีส่วนลด 50 บาท (ล้างอุปกรณ์ทานข้าวของท่านด้วยตนเอง  โดยทางเราจะเตรียมน้ำดื่มกรองสำหรับ Refill ให้)

**** รบกวนแจ้งทางทีมงานก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 2 สัปดาห์นะคะ ว่าท่านจะเตรียมอุปกรณ์อะไรมาเองบ้าง  เพื่อทางเราจะได้ดำเนินการในส่วนลดได้ถูกต้องค่ะ

กรณีต้องการจัดเป็น Private group 

ถ้ามีสมาชิก 6 ท่าน ต้องการจะเป็นกรุ๊ป Private ท่านสามารถกำหนดวันจัดเองได้ แต่ต้องโอนมัดจำมาล่วงหน้า 3 อาทิตย์ก่อนเดินทาง เพื่อเตรียมตัว หรือ หากจะไปวันธรรมดาก็ได้สามารถเปิดรับสมัครสมาชิกเพิ่มเพื่อลดค่าใช้จ่ายก็ได้ราคากรุ๊ปเหมาจะคิดตามจำนวนคน ณ วันไปจริง(โปรดสอบถาม)

Trip Rating : ระดับ 3 เดินป่าแบบค้างแรม ระดับไม่ยากมาก มือใหม่ไปได้ แต่ใจและกายต้องพร้อม ๆ ก็พอ ไม่เหมาะกับคนสูงวัยที่ร่างกายไม่แข็งแรง เพราะมีช่วงแบกของยาวๆ กรณีนั้นเราแนะนำให้จ้างลูกหาบส่วนตัวเพิ่ม

ลักษณะการเดิน : เดินป่าระยะ 6.5 กม ขึ้นเขาไปชมทุ่งดอกไม้ที่สวยมาก ใช้เวลาเฉลี่ย 4.5-7 ชม แล้วแต่ความแข็งแรงของร่างกาย / วันที่สองมีเดินลัดเลาะ มีช่วงปีนป่ายใช้มือเท้าครบ มีเนินชันเตี้ย มีช่วงลงเนินลื่น ควรใส่รองเท้าให้เหมาะสม การนอนทริปนี้จะนอนในเต็นท์มักพบฝนตกตลอดฤดูกาลท่องเที่ยว  ถ้ากลัวเปียก กลัวฝน ทริปนี้ก็ไม่ควรไป เพราะมีโอกาสเปียกได้และหลายครั้งเจอฝนทุกวัน

หมายเหตุ : สำหรับผู้ที่ชวนเพื่อนมาร่วมขบวน แนะนำดังนี้
1. ควรส่งโปรแกรมให้เพื่อนๆ ได้อ่าน และอธิบายให้เพื่อนๆ ทราบกันทุกคนก่อนนะคะ ว่าทริปนี้จะต้องเตรียมตัวยังไงและต้องเจอกับอะไรบ้าง กินอย่างไร นอนอย่างไร เดินแบบไหน เพราะถ้าเตรียมตัวไม่ดี จะไม่มีความสุข
2. การเตรียมตัวให้พร้อมกับสภาพอากาศที่อาจจะต้องเจอ เช่น ฝนตกในระหว่างทริป
3. ควรให้เพื่อนสมาชิกประเมินตนเองก่อนตัดสินใจร่วมเดินทาง ถามให้แน่ใจ เจอฝนจะบ่นไหม เดินเหนื่อยจะบ่นไหม
4. รองเท้าที่ใส่จะต้องให้ความสำคัญกับดอกยางมากๆ ค่ะ เพราะตลอดทางเดินที่ต้องเดินขึ้นเขา จะต้องผ่านเส้นทาง ที่สูงชันบ้าง ลื่นบ้าง จึงไม่แนะนำรองเท้าแฟชั่น

เพิ่มเติม : ระหว่างเส้นทางเดิน อยากจะให้ค่อยๆเดิน ค่อยๆชม และเรียนรู้ธรรมชาติไปด้วยค่ะ เดินบ้าง หยุดบ้างเพื่อเก็บร้อยเรื่องราวความประทับใจระหว่างทาง ทุกย่างก้าวที่ผ่านบนเส้นทางนี้อาจมีอะไรดีๆ ที่ไม่สามารถหาดูได้ในป่าคอนกรีตก็ได้นะค่ะ แม้แค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ก็อาจจะทำให้เรายิ้มได้ค่ะ

TKT ECOTOUR(11/09521) จ-ศ 10.00-19.00
Line@ : @trekkingthai
โทร 02-278-0225/02619-7993 อีเมล์ domestic@trekkingthai.com

[print_link] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2462″ color=”red”]ขั้นตอนการสมัครทริป
[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2502″ color=”red”]ใบสมัครแบบส่งอัตโนมัติ[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/tour/tkt_apply.pdf” color=”red”]ใบสมัครแบบ pdf[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/tour/tripapply.docx” color=”red”]ใบสมัครแบบ word[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?p=481″ color=”red”] แบบฟอร์มสอบถามอัตโนมัติ[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/pic1/map.jpg” color=”red”]แผนที่จุดนัดพบ
[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2462″ color=”red”]เงื่อนไขการยึด/คืนมัดจำ
[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=2458″ color=”red”] ทำไมควรเลือกเรา[/button] [button link=”https://www.trekkingthai.com/?page_id=6169″ color=”red”]ความเห็นจากลูกค้าเก่า[/button]

ทัวร์เดินป่า ภูสอยดาว บนทะเลทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จัดโดย TKT ECOTOUR by Trekkingthai.com ปี 2562

กดที่ tab ต่างๆ เพื่อดูรายละเอียด

[tabs color=”lime”] [tab title=”โปรแกรมทัวร์”] [button color=”#009933″]

กำหนดการจัดทริปปี 2562
ช่วงดูดอกไม้หน้าฝน มอสเขียวขจี น้ำตกสวยงาม

ทริป 1/2562   13-15 ก.ค. 62         เดินทางคืน 12 ก.ค. 62
ทริป 2/2562   27-29 ก.ค. 62      เดินทางคืน 26 ก.ค. 62  วันเฉลิมพระชนมพรรษา ร.10
ทริป 3/2562  10-12 ส.ค. 62         เดินทางคืน 9 ส.ค. 62   วันแม่แห่งชาติ
ทริป 4/2562  16-18 ส.ค. 62         เดินทางคืน 15 ส.ค. 61
ทริป 5/2562  23-25 ส.ค. 62       เดินทางคืน 22 ส.ค. 61
ทริป 6/2562  31 ส.ค. -1 ก.ย. 62   เดินทางคืน 23 ส.ค. 61
ทริป 7/2562  6-8 ก.ย. 62           เดินทางคืน 5 ก.ย. 62
ทริป 8/2562  13-15 ก.ย. 62         เดินทางคืน 12 ก.ย. 62
ทริป 9/2562  20-22 ก.ย. 62        เดินทางคืน 19 ก.ย. 62
ทริป 10/2562 27 -29 ก.ย.62        เดินทางคืน 26 ก.ย. 62
ทริป 11/2562 12-14 ต.ค. 62          เดินทางคืน 11 ต.ค. 62 วันหยุดชดเชยวันคล้ายวันสวรรคต ร.9
ทริป 12/2562 18-20 ต.ค. 62         เดินทางคืน 17 ต.ค. 62

********************
จากนั้น พย จะเป็นทริป ภูสอยดาว แบบ ขึ้นยอดสูงสุด 2102 เมตร ผจญภัยปีนเขา-สัมผัสอากาศหนาวเย็น วิวทุ่งหญ้าสีทอง (พย61-มค62) ซึ่งสวยงามและท้าทาย (คนละอารมณ์กันนะ!)

ให้อ่านโปรแกรมหน้าหนาวได้ที่
https://www.trekkingthai.com/?p=3345

***************************
(สนใจให้โทรสอบถามและลงชื่อแจ้งเบอร์โทรไว้ที่สำนักงานเลย ทริปนี้ของเราปกติออกได้ทุกอาทิตย์ และเต็มในอาทิตย์เทศกาลเร็วปกติมาโดยตลอด )
เช็คเบื้องต้นว่าทริปไหนเต็มไปแล้วบ้าง+ชมภาพและคลิปจำนวนมากได้ที่อัพเดทตารางการจองทัวร์
https://airtable.com/shrLP0FTjah0hpQ7C

[/button] รายละเอียดการเดินทางทัวร์ภูสอยดาว

วันเดินทาง

21.00  สมาชิกทุกท่านพร้อมกันที่ บริเวณสำนักงาน TKT สนามเป้า (ติดกับ BTS สนามเป้า ฝั่งอาคารยาคูลท์ มาโดยบีทีเอสให้เลือกทางออกที่ 3)

แผนที่เดินทาง >>>  >http://bit.ly/2GfTl1I

21.30 ล้อหมุน ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ทีมงานบริการน้ำดื่ม

วันที่หนึ่ง อช.ภูสอยดาว – ลานสนสามใบ(อาหารเช้า-กลางวัน-เย็น)

06.30 อรุณสวัสดิ์รับแสงแดดยามเช้า ที่ อช.ภูสอยดาว ล้างหน้าเรียกความสดชื่นรับเช้าวันใหม่

07.00 จัดการแยกสัมภาระกันก่อนค่ะ ให้แต่ละท่านนำกระเป๋าของตัวเองใส่ถุงพลาสติกสีขาวที่ทางเราเตรียมไว้ให้ ติดป้ายชื่อให้เรียบร้อย (น้ำหนักไม่เกินท่านละ 5 กิโลกรัม ขอแนะนำว่านำไปแต่เฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้นนะคะ ถ้าหากน้ำหนักเกินจากส่วนที่แจ้งไว้ รบกวนชำระเพิ่มตามจริง กิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งโดยปกติน้ำหนักนี้เพียงพอสบายๆ ค่ะ ) สำหรับเสื้อผ้าที่ใส่วันกลับ ก็ใส่ถุงฝากไว้ที่รถค่ะ

07.30 เติมพลังมื้อเช้ากันแบบเต็มที่ กับอาหารมื้ออร่อยด้วยฝีมือพี่เขียว(แม่ครัวประจำของเรา) หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาเก็บตก สำรวจตรวจตราความพร้อมกันอีกครั้งค่ะ แนะนำว่าให้มีกระเป๋าเป้ใบเล็กติดตัว 1 ใบค่ะ สำหรับไว้ใส่เสบียงมื้อกลางวัน น้ำดื่ม และของมีค่าที่จะนำติดตัว แต่ต้องมั่นใจว่า ของทุกอย่างจะ ต้องห่อใส่ถุงพลาสติกกันเปียกก่อนนะคะ

08.30 ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว เราจะเริ่มเดินจากบริเวณ “น้ำตกภูสอยดาว” ค่ะ สำหรับวันนี้สามารถชื่นชมความงามของน้ำตกได้อย่างเดียวนะคะ ใครอยากลองสัมผัสละอองน้ำก็ขอเป็นวันกลับค่ะ

ช่วงนี้จะเป็นการวอร์มอัพร่างกายนะคะ เดินราบ ๆ กันไปเสียก่อนผ่านสามเฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ และสถานีมอสเมื่อเครื่องเริ่มติดแล้ว ได้เวลาเครื่องเริ่มร้อนที่ “เนินส่งญาติ” เรียกได้ว่าเป็นเนินวัดใจเนินแรกๆ เลย เส้นทางค่อนข้างชันแต่ไม่ยาวมาก

คราวนี้เราก็ได้เวลาปราบเซียนตัวจริงกันที่ “เนินปราบเซียน” เส้นทางอาจจะไม่ชันเท่าเนินส่งญาติ  แต่ก็ยาวพอให้เราได้พิชิตใจตัวเองได้ดีทีเดียวค่ะ เหนื่อยบ้าง พักบ้างไม่เป็นไรค่ะ ผ่านเนินนี้ได้กำลังใจก็กลับมาอีกโขเลยล่ะ

เดินต่อมาอีกสักพักเราจะถึง “เนินป่าก่อ” ราชาแห่งป่าดิบเขาเดินไปเรื่อยๆ ก็เจอกับเนินที่ทำให้ตกใจกับชื่อเนิน “เนินเสือโคร่ง” แต่เนินนี้ไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับชื่อนะจ๊ะ เป็นเพียงเพราะว่า ที่แห่งนี้เคยมีดอกเสือโคร่งเยอะนั่นเอง เลยเป็นที่มาของชื่อเนินค่ะ

ขอขอบคุณรูปภาพจากสมาชิกที่ร่วมทริปกับเราจ้ะ

วัดใจครั้งสุดท้ายที่ “เนินมรณะ” เนินนี้เรียกได้ว่าแทบจะตั้งฉากไปกับแกนโลกเลยทีเดียว แต่ความงามระหว่างที่เราได้ปีนป่ายมันขึ้นไป ขอบอกว่าสวยอย่าบอกใครเลยค่ะ วิวภูเขาที่เรียงสลับซับซ้อนในมุมมองตั้งฉากก็สวยงามไม่แพ้ใครเลยค่ะ และก็เดินไม่ลำบากเช่นกัน เพราะว่ามีเครื่องช่วยผ่อนแรกพวกเราด้วยบันได วิเศษอีกแล้วค่ะ สู้สุดใจเลยจ้ารวมระยะทางเดิน 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความพร้อมของแต่ละคน จึงไม่แนะนำให้เร่งเดิน เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางไวๆ แต่อยากให้เดินแบบผ่อนคลาย ปล่อยใจไปกับเสียงของธรรมชาติที่อยู่เป็นเพื่อนเราตลอดการเดินทางก็ได้ และจะเดินอย่างเป็นสุขกว่าด้วย เหนื่อยก็พัก วิวสวยก็ถ่ายรูป เดินๆ นั่งๆ จุดหมายปลายทางความสวยยังรอเราอยู่ไม่หนีไปไหน ซึ่งเมื่อเทียบกับการขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นภูสอยดาวจะใกล้ ความเหนื่อยในช่วงขึ้นทางชันก็พอ ๆ กันพอพ้นจากช่วงนี้แล้ว ก็จะเจอกับลานสนอันกว้างใหญ่ พร้อมกับทุ่งดอกไม้ที่ชูช่อสะบัดคอคอยต้อนรับพวกเราอยู่ค่ะ แต่อย่าลืมเก็บภาพความสำเร็จกับป้ายผู้พิชิตภูสอยดาวนะค่ะ

15.00 โดยประมาณ เราจะมีทีมงานเป็นม้าเร็วมาเตรียมสถานที่รอไว้ค่ะ นั่งพักให้หายเหนื่อยกันสักหน่อยก็เตรียมสำรวจพื้นที่ลานสนกันได้เลยค่ะ เมื่อขึ้นมาบนนี้แล้ว ก็เหมือนกับเราอยู่ในดินแดนส่วนตัวเลยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ฝนเพิ่งหยุดตก สายหมอกก็เริ่มพัดผ่าน ราวกับว่าเราอยู่ในห้วงดินแดนของความฝันก็ไม่ปาน

ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่ตุ้ย

สำหรับช่วงฤดูกาลคนอาจจะเยอะสักหน่อย แต่เราก็แบ่งปันความสวยงามกันค่ะท่านใดมีความสนใจในการเรียนรู้การตั้งแค้มป์ก็ช่วยทีมงานจัดแจงกางเต็นท์ได้เลยค่ะไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด หรือจะไปปล่อยใจปล่อยอารมณ์กับธรรมชาติ แล้วมาช่วยเป็นพ่อครัวหัวป่าร่วมกับบรรเลงมื้ออาหารค่ำด้วยกันก็ได้นะจ๊ะ จะได้สัมผัสความรู้สึกไปอีกแบบเลยค่ะ

19.00 ได้เวลารับประทานอาหารเย็นร่วมกันแล้วค่ะ หลังจากที่เดินกันมาเหนื่อยๆ ก็ต้องเติมพลังงานกลับคืนให้กับร่างกายค่ะ เรื่องอาหารที่ผ่านมาได้รับคำชมแทบจะทุกทริปค่ะ ว่าพกพ่อครัวแม่ครัวมาเองเลย)

*** เราจะจัดเต็นท์ให้นอนหลังละ 2 ท่าน กรณีต้องการพักเดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 500 บาท(เป็นค่าใช้จ่ายน้ำหนักสัมภาระกองกลาง / ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ / ค่าเสื่อมอุปกรณ์จ้า)

วันที่สอง น้ำตกสายทิพย์ หลักเขตแดนไทย-ลาว ทุ่งดอกหงอนนาค (อาหารเช้า-กลางวัน-เย็น)

06.00 ตื่นเช้ารับแสงอรุณบนยอดดอย สูดรับอากาศสดชื่นยามเช้าให้เต็มปอด กับสายหมอกบางๆ ด้วย Morning Coffee station กาแฟดริฟเข้มข้นหอมกรุ่น  ดื่มคู่พร้อมกับขนมปังหรือคุกกี้อร่อย ๆ สไตล์ European breakfast รองท้องยามเช้า

07.30 นั่งล้อมวงทานอาหารเช้าร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อย เติมพลังกันให้เต็มอิ่ม

08.30 ก็ได้เวลาไปเที่ยวน้ำตก หามุมสวย ๆ กันที่  “น้ำตกสายทิพย์”  เป็นน้ำตกที่สวยงามที่อยู่ในหุบบนยอดภู  ทางลงค่อนข้างลาดชันพอสมควร  ที่น้ำตกแห่งนี้เราจะเห็นความงามของสายน้ำตกไปพร้อมๆ กับความเขียวขจีของต้นมอสและเฟิร์นที่เกาะอยู่ตามโขดหินบางช่วงของการเดินเส้นทางนี้ หากโชคดีก็จะเห็นความสวยงามของสีสันที่ตัดกันของใบเมเปิ้ลสีแดงอมส้ม ตกพรมลงมาวางอยู่บนสีเขียวของมอส ให้ภาพความงดงามไปอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ

ขอขอบคุณรูปภาพจากสมาชิกที่ร่วมทริปกับเราจ้ะ

นอกจากนี้เส้นทางของน้ำตกแห่งนี้ ยังชี้ชวนให้เราได้ชมกับไม้พันธุ์ต่างๆ ที่ขึ้นแทรกอยู่ภายในหุบเขานี้ ไม่ว่าจะเป็นเฟิร์นชนิดต่างๆ ดอกไม้ป่า กล้วยไม่ป่า หรือเห็ดชนิดต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพลิดเพลินกับการเดินชมความงามจนลืมเหนื่อยไปได้เลยค่ะ

12.00 กลับมาเติมพลังมื้อกลางวันกันที่แค้มป์ค่ะ

13.30 หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว  เราจะไปเดินเล่นชมวิวหามุมถูกใจถ่ายรูปกับทุ่งดอกหงอนนาค นำภาพกลับไปอวดสายตาเพื่อนๆ ได้เลย แดดร่มลมตกกันสักนิด นัดกันไปยังหินหลักเขตแดน ไทย – ลาว ให้แน่ใจว่านี่คือสุดเขตประเทศไทย และเป็นจุดเริ่มต้นประเทศลาว เดินชมวิวไปเรื่อย ไปถ่ายรูปที่จุดชมวิว เก็บภาพมุมสูงอีกด้านหนึ่งของภูสอยดาว ระหว่างทางเดินกลับ ก็ค่อยโบกมือลาแสงอาทิตย์สุดท้ายของวันค่อยๆ ลับหายไปเบื้องหลังลานสน หากท่านชอบเรียนรู้ธรรมชาติลองมองสิ่งเล็ก ๆในระหว่างการเดินในเส้นทางดู มีดอกไม้ป่าเล็กๆ อีกหลายชนิดที่เบ่งบานแซมไปกับทุ่งหงอนนาคอยู่ด้วย

ระหว่างเส้นทางเดิน เราจะได้ทำความรู้จักกับ “ต้นไม้เพื่อนใหม่”…ผ่านการกอดสัมผัสเพื่อบอกเล่าความรู้สึกความสัมพันธ์ระหว่างเรากับธรรมชาติ ให้ต้นไม้เป็นสื่อกลางในการส่งต่อความรู้สึกของเรา

ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟส้ม

19.00 รับประทานอาหารเย็นด้วย Line อาหารเย็นสุด Wow จากทีมงานของเรา  จากนั้นเราจะร่วมวง Sharing  ความรู้สึกระหว่างวันนี้

นอนหลับฝันดี  ราตรีสวัสดิ์

วันที่สาม อำลำภูสอยดาว (อาหารเช้า-กลางวัน-เย็น)

06.00 ได้เวลาตื่นรับแสงอาทิตย์สุดท้ายบนยอดภูแล้วค่ะ เพราะวันนี้เราต้องอำลาทุ่งหงอนนาคราชินีภูสอยดาวแล้วค่ะ

07.30 รับประทานอาหารเช้า เตรียมพร้อมเก็บสัมภาระ ทุกอย่างต้องเก็บกลับลงไปให้หมดนะค่ะเหลือไว้ได้เพียงอย่างเดียวคือหัวใจที่อิ่มเอมไปด้วยภาพความประทับใจในธรรมชาติบนนี้ค่ะ

08.30 เริ่มออกเดินทางกันได้เลยค่ะ โบกมืออำลาความงามเดินกลับลงไปยังเส้นทางเดิมที่เราเดินมา ระหว่างทางลงก็เก็บตกมุมที่เราเดินผ่านมา หรือมุมไหนที่เราพลาดไปก็แวะเก็บกันได้เล็กน้อยค่ะในช่วงขาลงนี้อาจจะลำบากกว่าขาขึ้นมาเล็กน้อย ตรงที่เราจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อขา ก็ค่อยๆลงมาเรื่อยๆค่ะ จะได้ช่วยผ่อนอาการการเกร็งกล้ามเนื้อได้ หรือจะใช้ไม่เท้าช่วยในการผ่อนแรงได้ค่ะระหว่างทางก็ถ่ายภาพกันได้อีกเมื่อลงมาถึงแล้ว ทีมงานบริการน้ำอัดลมเย็น ๆ ชื่นใจ ให้หายเหนื่อยกันสักพัก

จากนั้นก็ได้เวลาอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดสดชื่น

13.30 โดยประมาณ รับประทานอาหารกลางวัน มื้อนี้ฝากท้องกับพี่เขียวอีก 1 มื้อค่ะ มื้อนี้เราจะแซ่บกับส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ยำรสเด็ด

14.30 ล้อหมุนจาก อช.ภูสอยดาว เป็นการอำลาอย่างแท้จริงค่ะ

19.00 แวะรับประทานอาหารเย็นที่ นครสวรรค์ หรือพิษณุโลก หรือบริเวณอืนๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเวลาเป็นสำคัญ รับรองได้ว่าจะเป็นอาหารมื้อเย็นที่คุณต้องทานกันได้เยอะแน่ๆ เลย

24.00 ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพและเต็มเปี่ยมด้วยความทรงจำ

หมายเหตุ โปรแกรมทริปอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยที่มิต้องแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากสภาวะอากาศและปัจจัยอื่นๆอีกมากที่อาจทำให้การเดินทางไม่เป็นไปตามแผน และควบคุมไม่ได้ แตทางเราจะยึดมั่นถึงความสุขและรอยยิ้มของท่านเป็นสำคัญ

ราคาทริปท่านละ : (อยากไปเดินป่า ภูสอยดาว ราคาไหน เลือกได้เลย)

  • เดินป่าแบบสบายๆ เตรียมไปแค่ของส่วนตัว เพราะเราเตรียมให้หมดแล้ว แต่ต้องแบกถุงนอนและสัมภาระส่วนตัวเองนะจ๊ะ
    ราคาทริปท่านละ : 4603.5 บาท (VAT 7%  346.5 บาท )  รวมเป็นเงินเท่ากับ  4950 บาท (รวมโควต้าค่าลูกหาบช่วยแบกสัมภาระส่วนตัว 5 กิโลกรัม/ท่าน กรณีที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มตามจริงหน้างาน)
    ราคานี้รวมอะไรบ้าง ?
    – ค่ารถตู้ TOYOTA COMMUTER D4D รุ่นใหม่ 9 ที่นั่ง
    อาหาร 9 มื้อ (ครบทุกมื้อ) อิ่ม-อร่อย ไม่มีมาม่า ปลากระป๋อง
    ค่าลูกหาบแบกสัมภาระไป – กลับ ไม่เกินรอบละ 5 กิโลกรัม มูลค่า 30 X 5 กิโล x 2 รอบ = 300 บาท (หากน้ำหนักเกินจ่ายเพิ่มตามจริง กิโลกรัมละ 30 บาท) -วันเดินทางมาลองชั่งและจัดของได้ที่จุดออกทริปก่อนได้จะได้รู้น้ำหนักไปก่อนและจัดสัมภาระตั้งแต่ก่อนเดินทาง

    เต็นท์  แผ่นรองนอนฟรอยด์ แผ่นรองนั่งที่พัฒนาโดยทีมงานของเราเอง  เพื่อช่วยให้ก้นไม่เปียกและเลอะตอนนั่งที่แค้มป์  เพราะฝนที่นี่มักตกตลอด – ลูกหาบแบกให้
    ถุงนอน (แบกเอง)
    อุปกรณ์กันฝน อุปกรณ์กองกลางเพื่อการแค้มปิ้งอย่างมีความสุข กราวน์ชีทกลาง-กราวน์ชีทในเต็นท์(ช่วยลดปัญหาน้ำซึมจากด้านล่างตอนฝนตก)-ฟลายชีต 2 ชั้น(เต็นท์+ฟลายชีตเสริมทำให้กันฝนได้ดีขึ้น) -เครื่องกรองน้ำกองกลาง – ยาที่ใช้บ่อย

    เราจัดเสื้อกันฝนให้แบบฟรี ๆ ด้วยนะ
    – ค่าลูกหาบกองกลาง
    – ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามรายการ
    – ค่าเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดการเดินทาง
    – ค่าประกันอุบัติเหตุ 1,000,000 บาท / ท่าน
    ค่าจัดการขยะ นำขยะจากบนเขาลงมาจัดการด้านล่าง
    – เรารณรงค์ให้ทุกคณะนำขยะออกจากพื้นที่ให้หมด เพื่อความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยว
    – หลากหลายกิจกรรมเฉพาะที่ทีเคทีพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างความสนิทในกลุ่มสมาชิกที่ไปด้วยกันและสร้างความภูมิใจที่ได้เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น Wow Dinner/Networking night/กอดต้นไม้/พาน้องขยะกลับบ้าน
    – ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • Plus+ เดินป่าให้สบายมากขึ้นไปอีก  เรามี Options เสริมให้กับเพื่อนๆ ที่ต้องการความสบายที่มากกว่า 

    • นอนเต็นท์เดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 500 บาท (เราจัดเต็นท์ขนาด 2 คนนอน หรือ 210 x 150 x 135ซม. มีลูกหาบแบกให้
    • แผ่นรองนอนแบบพองลมเอง K2 หนาขึ้น นอนสบายมากขึ้น มีลูกหาบแบกให้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 200 บาท
  • ส่วนลด  สำหรับท่านที่มีอุปกรณ์ส่วนตัวพร้อมแล้ว
    • ส่วนลดสมาชิกตลอดชีพ ได้ส่วนลด 150 บาท/ทริป(ค่าสมัครสมาชิกตลอดชีพ 500 บาทต่อท่าน เหมาะกับท่านที่จะเที่ยวกับเราหลายๆทริปต่อเนื่อง ได้รับของที่ระลึกและข่าวสารทัวร์ใหม่ๆ พร้อมสิทธิในการไปกับทริปพิเศษต่างๆ)
    • กรณีขับรถเดินทางไปเจอกับทีมงานเอง นัดเจอกันที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว   ราคาท่านละ 3852 บาท
      **ทั้งนี้ต้องมีสมาชิกออกเดินทางจากกรุงเทพฯ 5 ท่านจึงจะการันตีการออกเดินทางได้จ้า
      *** ราคานี้ไม่รวมอาหารมื้อเย็นวันเดินทางกลับและค่ารถตู้เดินทางไป-กลับกรุงเทพฯ-อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (ซึ่งถ้าสมัครแบบไปจากกทมจะรวมให้ทั้งหมด)
      **รับแบบเดินทางเองไม่เกิน 2 ท่าน/ตู้**
    • นำถุงนอนไปเอง และแบกเอง มีส่วนลด 150  บาท  (ถุงนอนที่เราเตรียมให้  ท่านก็แบกเองเช่นกันนะคะ)
    • นำเต็นท์ไปเองและให้ลูกหาบส่วนกลางของเราแบกให้ มีส่วนลด 200 บาท (สำหรับเต็นท์ขนาดไม่เกิน 210 x 150 x 135ซม. หรือน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม)
    • นำเต็นท์ไปเองและแบกเอง มีส่วนลด 400 บาท (แนะนำเต็นท์ควรมีขนาดไม่เกิน 210 x 150 x 135ซม. เพื่อให้สะดวกต่อการแบกและง่ายต่อการหาพื้นที่กางเต็นท์ได้ง่าย) ***  ที่นี่มีระยะการเดินเท้าเฉลี่ย 3-5 ชั่วโมง  มีจุดที่สามารถพักได้ระหว่างทาง
    • ไม่ต้องการแผ่นรองนอน มีส่วนลด 50 บาท(ในราคาแพคเกจเต็ม ทีมงานจะจัดแผ่นรองนอนเสื่อฟอยล์ที่มีความบาง แต่กันความชื้นจากผืนดิน และกันน้ำซึมย้อนจากผืนดินได้ดี
    • นำจาน หรือกล่องข้าวส่วนตัว – ช้อน – แก้วน้ำ และขวดน้ำดื่มมาเอง มีส่วนลด 50 บาท (ล้างอุปกรณ์ทานข้าวของท่านด้วยตนเอง  โดยทางเราจะเตรียมน้ำดื่มกรองสำหรับ Refill ให้)

**** รบกวนแจ้งทางทีมงานก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 2 สัปดาห์นะคะ ว่าท่านจะเตรียมอุปกรณ์อะไรมาเองบ้าง  เพื่อทางเราจะได้ดำเนินการในส่วนลดได้ถูกต้องค่ะ

อัตรานี้ไม่รวม
     ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

วิธีการจองและชำระค่ามัดจำทริป

ยืนยันทริปได้โดยโอนเงินมัดจำท่านละ 2500 บาท

สามารถโอนทางอินเตอร์เนตแบ็งค์กิ้งได้

มาที่ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ นายนิพัทธ์พงษ์ ชวนชื่น
1. ธ.กรุงเทพฯ สาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เลขที่ 089-7-06322-8
2. ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เลขที่ 406-3-19665-8
3. ธ.กสิกรไทย สาขาเซฟ-อี พุทธมณฑลสาย 2 เลขที่ 001-8-73989-5
4. ธ.กรุงไทย สาขาเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เลขที่ 983-6-49843-5

หรือโอนเงินผ่าน QR Code ผ่านบริการของธนาคารกสิกรไทย หรือ app ชำระเงินต่างๆ 

หรือชำระผ่านบัตรเครดิตระบบของ tripspace (มีค่าธรรมเนียม 70 บาท/ท่าน)

————————————————————————

จากนั้นให้พิมพ์ใบสมัครทริปที่ลิงค์ด้านล่าง แล้วส่งทาง

อีเมล์ domestic@trekkingthai.com
หรือ ไลน์แอด @trekkingthai
หรือทางโทรสารไปที่ 0-2619-9770

อย่าลืมแจ้ง ชื่อ-นามสกุลจริง อายุ เพศ อีเมล์ และเบอร์โทรที่ติดต่อได้
ของผู้เดินทาง ( เพื่อการทำประกัน )

หรือสแกนสลิป + ใบสมัครส่งไปที่ domestic@trekkingthai.com

ใบสมัคร
แบบ ส่งอัตโนมัติ (ต้องมีภาพสลิปการโอนพร้อมแนบเรียบร้อยแล้ว)
https://www.trekkingthai.com/?page_id=2502

แบบ pdf       https://www.trekkingthai.com/tour/tkt_apply.pdf

แบบ word     https://www.trekkingthai.com/tour/tripapply.docx

ใบสมัครสำหรับลูกค้าเก่าเคยมากับเราหรือสมาชิก(มีหมายเลขสมาชิกแล้ว) แบบ ส่งอัตโนมัติ (ต้องมีภาพสลิปพร้อมแนบ) https://www.trekkingthai.com/?page_id=3021

เราจะมีการตอบกลับทุกครั้งที่ได้รับใบสมัคร กรณีส่งอีเมล์หรือส่งแฟกซ์มาแล้วมาแล้วไม่มีใครติดต่อกลับในช่วง 2 วันทำการก็ขอให้โทรมาสอบถาม เพื่อป้องกันการตกหล่นของเอกสาร

ออกเดินทางเมื่อสมาชิกครบ 5 ท่าน ++

เงื่อนไขการยกเลิกทริป :
1 กรณียกเลิกก่อนออกเดินทาง 15 วัน ทางเรายินดีคืนเงินมัดจำ 100%
2กรณียกเลิกก่อนออกเดินทาง 14 วัน ทางเราต้องขอยึดเงินมัดจำทั้งหมดนะจ๊ะ
3 กรณีที่มีสมาชิกมาแทนท่านที่ยกเลิกทริป ทางเรายินดีคืนเงินมัดจำให้ทั้งหมดจ้ะ

จันทร์ – ศุกร์ ช่วงเวลา 10.00 – 19.00 น.

แชทกับเราได้ง่ายๆ และ ได้ข่าวดีๆก่อนใครไลน์ @trekkingthai กดแอดได้เลย

โทรจองได้ที่ 02-2780225/ 02-6197993 / 02-6171775


[/tab] [tab title=”ภาพ/วีดีโอตัวอย่าง”] รีวิว
https://www.facebook.com/pg/PakPhaPak/photos/?tab=album&album_id=1796313124014315

วีดีโอ โดย Athiwat Kshemasanta Na Ayudthya

วีดีโอ โดย pipekansava

ดูภาพใหม่ๆของปี (ทยอยอัพเดต) ได้ที่
https://www.facebook.com/phusoidao?fref=ts

[/tab] [tab title=”รายละเอียดที่พัก/อาหาร”]

ที่นอนหลับพักผ่อนในทริปนี้

คืนแรก + คืนสอง กางเต็นท์นอนหลังละ 2-3 ท่าน

*** เราจะจัดเต็นท์ให้นอนหลังละ 2-3 ท่าน กรณีต้องการพักเดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 500 บาท(เป็นค่าใช้จ่ายน้ำหนักสัมภาระกองกลาง / ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ / ค่าเสื่อมอุปกรณ์จ้า)

รายการอาหารของทริปนี้ที่ทางเราเคยจัดให้แบบคร่าว ๆ เอามาเล่าให้น้ำลายไหลกัน ^^

วันที่ 1 ของการเดินทาง

เช้า ทานข้าวเช้่าที่ร้านป้าน้อย อช.ภูสอยดาว
กลางวัน ข้าวห่อ เช่น ข้าวผัดกระเพรา ไข่ดาว / ข้าวราดหมูกระเทียม เป็นต้น
เย็น สตาฟจัดทำอาหาร + ของหวาน เช่น สปาเก็ตตี้ / กุ้งอบวุ้นเส้น / หมูหวาน / น้ำพริกกะปิ ไข่ชะอม มื้อนี้เป็นมื้อที่ทีมงานจะสร้างสรรค์อาหารมาให้ชิมกันเต็มที่ ของหวาน อาจะเป็นสไตล์ตะวันตก หรือแบบไทยๆ กล้วยตากบวชชี / ฟักทองบวชชี ฯลฯ (แล้วแต่สตาฟทริปนั้นจะสร้างสรรค์)

ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟน้ำ

วันที่ 2 ของการเดินทาง

เช้า   Morning coffee & western bread + ข้าวผัด / ข้าวต้ม (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
กลางวัน กลับมาทานอาหารกลางวันที่แค้มป์  เมนูอาหารเช่น  ข้าวผัดปู /ผัดซีอิ้ว / ก๋วยจั๊บญวน /ขนมจีนแกงเขียวหวาน (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
เย็น สตาฟจัดทำอาหาร + ของหวาน เช่น สปาเก็ตตี้ / กุ้งอบวุ้นเส้น / หมูหวาน / น้ำพริกกะปิ
ไข่ชะอม / ฮันนี่โทส / เต้าฮวยฟรุ้ตสลัด ฯลฯ (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)

วันที่ 3 ของการเดินทาง

เช้า   Morning coffee & western bread + ข้าวผัด / ข้าวต้ม (แล้วแต่สตาฟจัดทำ)
กลางวัน ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ แซ่ยอีหลี ที่ร้านป้าน้อย อช.ภูสอยดาว
เย็น ร้านร.เรือ จ.นครสวรรค์ หรืออื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเวลาเป็นสำคัญ

หมายเหตุ หากมีท่านใดที่แพ้อาหารบางชนิด / ทานอาหารบางอย่างไม่ได้ เช่น ไม่ืทานเนื้อ เป็นมังสวิรัติ ไม่ทานเผ็ด รบกวนแจ้งให้ทางเราด้วยนะค่ะ เพื่อที่ทางเราจะได้จัดการอาหารให้มีความเหมาะสมกับท่านนะค่ะ เพราะเราปรารถนาให้ท่านได้เที่ยวอย่างสนุกกับการเรียนรู้สิ่งรอบ ๆตัว ท้องอิ่ม และนอนหลับสบายค่ะ

[/tab] [tab title=”คำแนะนำการเตรียมตัว”]

ผจญภัย-เดินป่า ลานสน ภูสอยดาว 3 วัน 2 คืน
เส้นทาง กรุงเทพ-พิษณุโลก-อ.ชาติตระการ-อช.ภูสอยดาว
จุดท่องเที่ยวหลัก ทุ่งดอกหงอนนาค ลานสน น้ำตกสายทิพย์
ขอให้พิมพ์-หรือส่งลิ้งค์โปรแกรมให้สมาชิกในทีมได้อ่านก่อนเดินทาง

คำถามที่พบบ่อย +การเตรียมตัว

สำหรับใช้อธิบายเพื่อชวนเพื่อนของท่านมาร่วมทริป
1. ดอกไม้ในแต่ละเดือน บรรยากาศเป็นอย่างไร ไปช่วงไหนดีที่สุด! ฝนมากน้อยแค่ไหนในแต่ละช่วง
ภูสอยดาว เดือนต่างๆ จากสถิติตั้งแต่ปี 2544 ที่ทัวร์เราเริ่มจัด ช่วงที่ดีมีคนนิยมเที่ยวเพื่อไปชมดอกไม้ของปีคือ สค-ตค
ปลายกค-สิงหาคม มอสที่น้ำตกจะสมบูรณ์ ถ้ายน้ำตกได้สวย (คนยังไปเที่ยวน้อย)  ดอกไม้ปานกลาง-มาก เป็นช่วงเปิดฤดู ฝนยังไม่มาก โอกาสถ่ายรูปฟ้าใสมีมาก ถ้าไม่ชอบฝน อยากได้รูปมอสเขียว ๆ ไปเดือนสิงหา
กันยายน ดอกไม้มากสุดในฤดูกาลท่องเที่ยว ฝนเดือนนี้เยอะสุด หนักสุด อาจตกได้ทั้งวันในตอนที่มรสุมเข้า น้ำตกมักมีสีน้ำตาลแดง โอกาสถ่ายรูปทุ่งดอกไม้ในสายหมอกมีมาก หลังฝนหยุดใหม่ๆ หมอกจะไหลเข้ามาบนยอดเขา (รางวัลของคนสู้ฝน ใครไม่กลัวฝน ไปเดือนกันยา)

ตุลาคม ดอกไม้มาก-ปานกลาง น้ำตกมีน้ำมาก น้ำใสกว่าเดือนกันยายน ฝนต้นเดือนจะมากและทยอยลดลง ปกติช่วงวันปิยจะไม่เจอฝน โอกาสถ่ายรูปได้ทั้งสองแบบมีมาก(ฝนตก+ฟ้าใส) ถ้าไม่ชอบฝนโดยสถิติเราแนะนำไปหลัง 10 ตค

——————
นอกฤดูท่องเที่ยว ภูสอยดาวก็เที่ยวได้นะ
พย ดอกไม้น้อย น้ำตกเริ่มลดลง กลางเดือนอากาศหนาว เรามีจัดขึ้นยอดสูงสุด 1 ครั้ง

ธค ดอกไม้น้อย น้ำตกแห้ง อากาศหนาวเย็น มีคนไปแค้ม ดูดาว สัมผัสอากาศหนาวกัน

เดือนอื่นๆ ดอกไม้น้อยกว่าปกติ แต่ก็สวยงาม ทั้งนี้ระบุได้ยากว่าไปแล้วจะเจอฝนไหม หรือแดดทั้งสามวันไหม แต่ถ้าไปซ้ำมีโอกาสได้เจอครบรูปแบบ แต่ปีหลังๆ พยากรณ์อากาศของไทยแม่นยำมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้นในระดับ 1 อาทิตย์ก่อนเดินทาง

* ทั้งสามเดือนในฤดูท่องเที่ยวสวยงาม ถ่ายรูปได้เยอะ ถ้าท่านต้องไปซ้ำแนะนำเลือกเดือนที่แตกต่าง เพราะมีดอกไม้อื่นๆ หลายชนิดบานตามฤดูกาลของเขา แต่ดอกไม้ส่วนใหญ่จะมีอายุการบานสั้นกว่าดอกหงอนนาค *

2. ไปคนเดียวได้ไหม
มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ที่สมัครไปร่วมทัวร์ภูสอยดาวเพียงท่านเดียว แล้วก็ไปพบกับเพื่อนใหม่ที่เดินขึ้นภูไปด้วยกัน กลับมาก็สานต่อความสัมพันธ์แลกเบอร์ แชร์ facebook แลก Line กลายเป็นเพื่อน หรือบางคู่ไปได้ไกลกว่านั้น กิจกรรมเดินป่าเป็นกิจกรรมที่ง่ายต่อการเห็นตัวตนของผู้คน ทำให้คนที่มีจริต ความชอบเดียวกันเข้าใจกันได้ชัดเจนขึ้น หรือกระจ่างขึ้น

3. คำแนะนำในการเตรียมตัว การจัดสัมภาระ ต้องแบกเป้เองไหม

3.1 เครื่องแต่งกายสำหรับทริปนี้

กางเกง : กางเกงขายาว เนื้อผ้าเบาแห้งไว จะดีมาก ทริปนี้ไม่แนะนำกางเกงยีนส์ เพราะมักจะทำให้เสียดสี รู้สึกอึดอัดเวลาเดินเขาซึ่งต้อง ขึ้นลงอยู่บ่อยครั้ง และหนักตัวเวลาเดิน แล้วฝนตก (แต่บางคนที่ถนัด รับสภาพได้ หรือชินจริงๆ ก็ไม่เป็นไรนะ)

เสื้อ : เป็นเสื้อยืดแขนยาว หรือแขนสั้นก็ได้จ้า สีสันได้ตามสะดวกเลย แต่ถ้าจะให้ถ่ายรูปออกมาดูดี
กิ๊บเก๋ ต้องเน้นสีสด ๆ ถ่ายรูปแล้วจะสวย แต่ถ้ามีปลอกแขนจะดีมาก ๆ เลย เพื่อป้องกันการถูกขีดข่วนจากหนามและป้องกัน”ตัวคุ่น”ได้ระดับหนึ่ง เนื่องจากอาจเปียกฝน เน้นว่าถ้าแห้งไวจะดี ฟ้าบนภูอาจมีแดดเพียงไม่กี่ ชม ต่อวัน ในช่วงที่ฝนชุก

รองเท้า : ควรจะเตรียมรองเท้าเพื่อกิจกรรม outdoor (ของ keen tewa และอีกหลายยี่ห้อ) ซึ่งเปียกได้ แห้งง่าย จุดสำคัญคือให้เน้นที่ดอกยางลึก เกาะดิน หินดีพอสมควรเป็นชนิดเดินป่าโดยตรง หรือใครไม่อยากลงทุนมากจะเป็นรองเท้าผ้าใบก็ได้ แต่ให้เลือกแบบดอกยางหนาไว้ แบบดอกยางเรียบเวลาเดินไปน้ำตกสายทิพย์อาจลื่นได้ง่าย และรองเท้าแตะสักคู่เอาไว้เพื่อใส่ตอนเดินไปมาที่จุดตั้งแค้มป์ เนื่องจากฝนตกเสมอ รองเท้าหลักของท่านมักจะต้องเปียก แต่ถ้าใส้รองเท้าแตะขึ้นโดยไม่มีการผิดหัวแม่เท้าไว้ ต้องรับความเสี่ยงจากการโดนหนามแทงโดยเฉพาะในระหว่างเดินน้ำตก

รองเท้าแบบประหยัด คุณภาพก็ตามราคาแต่ใช้งาน 1 ทริป สำหรับคนที่ไปไม่บ่อย จะมีรองเท้าผ้าใบที่คนจีนใช้ในการเดินไปทำไร่นาหรือาชีพบนดอย แบบนี้
https://www.trekkingthai.com/cgi-bin/shopping/show.pl?P0076

ถุงเท้า : ควรเตรียมถุงเท้ายาว และหนาสักนิดไปใส่ด้วยนะค่ะ เพราะการเดินป่าระยะไกลนั้น โดยไม่ใส่ ถุงเท้านั้นจะทำให้เท้าที่เสียดสีกับรองเท้าเป็นเวลานานเกิดการพองและเป็นแผลถลอกได้ค่ะ แผ่นรองเท้าถ้ามีก็ดี ทำให้เดินสบายขึ้น สภาพพื้นที่มีการจัดทำทางให้เดินสะดวกกว่าพื้นที่เดินป่าอื่นๆแล้ว ทางขึ้นภูกว้างหลายเมตร-โล่ง เวลาเดินบนหลังแปก็โล่งๆ ราบๆ แต่ช่วงไปเดินน้ำตก ใครเตรียมรองเท้า-ถุงเท้าไม่ดี ก็พบว่าลื่น ข้อเท้าแพลงอยู่บ่อยครั้ง

หมวก / ผ้าคลุมหน้า : เอาไว้ใส่ป้องกันแสงแดด และรังสียูวีที่จะมาทำร้ายใบหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ของเราในช่วงระหว่างเดินไป – กลับ

เสื้อกันฝน : แน่นอนว่าเราไปเดินป่าช่วงหน้าฝน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องเจอแน่นอนก็คือสายฝน ดังนั้นการเตรียมตัวป้องกันเปียกไว้ก่อนก็ทำให้การเดินป่ามีความสุขขึ้น ที่ภูสอยดาวโดยรวมใช้ร่มก็ได้เพราะทางโดยรวมโล่ง แต่ช่วงเดินไปเที่ยวน้ำตก มีเสื้อกันฝนก็สะดวกกว่าแต่จะร้อนอบเวลาฝนตก

3.2 กระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระ ควรจะแยกออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
3.2.1 กระเป๋าเป้ที่เอาขึ้นภูสอยดาว ให้เน้นเฉพาะสัมภาระที่จำเป็นจริง ๆ เช่น ถุงนอน เสื้อกันหนาว กระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ พร้อมกับ “ห่อสัมภาระทั้งหมดด้วยถุงพลาสติก” เพื่อป้องกันน้ำเวลาฝนตก และโคลน และน้ำเวลาที่เราเดินลุยน้ำตก บางทีฝนตกตลอดทาง ขึ้นไปถ้าเสื้อผ้าเปียกจะนอนลำบาก สัมภาระเราจะถูกแบกโดยลูกหาบ แนะนำเป็นเป้ หรือกระเป๋าผ้า กระเป๋าลากสี่เหลี่ยมแบบเดินทาง จะไม่สะดวกนัก ของที่ใส่ในเป้ให้แยกเป็นถุงๆ ถุงพลาสติคมัดให้แน่นกันน้ำเข้า อย่าใส่โดยไม่มีการกันน้ำ ฝนตกแล้วน้ำจะซึมเข้า เพราะอุปกรณืของลูกหาบไม่กันน้ำ

3.2.2 เป้เล็กใส่ของระหว่างเดินขึ้นภู อาหารว่าง อุปกรณ์กล้อง ของมีค่าติดกาย ร่ม-เสื้อกันฝน ยา แว่นกันแดด(ที่มีไม่ค่อยได้ใช้)

3.2.3 ถุงใส่ของเตรียมกลับบ้านสำหรับใส่เสื้อผ้า /เครื่องสำอางค์/อุปกรณ์อาบน้ำ แนะนำให้เป็นเป้ใบเล็ก ๆ สำหรับใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำตอนขากลับลงจากยอดเขาค่ะ โดยเราจะเก็บกระเป๋าใบนี้ไว้บนรถตู้ค่ะ
3.3 ทิชชู่เปียก เตรียมไว้เวลาจะทำธุระส่วนตัวจ้า เนื่องจากข้างบนมีห้องน้ำ แต่ไม่สะดวก หากใช้ทิชชู่เสร็จก็ช่วยกันเก็บทิ้งใส่ถุงขยะ เราจะนำลงไปทิ้งด้านล่างไม่ทิ้งอะไรที่ไม่ย่อยสลายไว้บนภู

3.4 ไฟฉาย จะเป็นแบบคาดหัว หรือแบบถือจะได้ค่ะ แล้วแต่สะดวกเลย จำเป็นเพราะกลางคืนโดยเฉพาะตอนฝนตก ต้องใช้ส่องรอยน้ำซึม รั่ว
3.5 กล้องถ่ายรูป มือถือ ที่มีซองกันน้ำ ไว้เก็บภาพสุดประทับใจ ซองกันน้ำเป็นแบบราคาไม่สูงนักก็ใช้ได้ที่ภูสอยดาวแล้วล่ะ

3.6 เป้ใบหลัก และสัมภาระ เราจัดให้ลูกหาบนำขึ้นไปให้ ในจำนวนไม่เกิน 8 กก ต่อท่าน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอโดยปกติ นักท่องเที่ยวจะแบกเฉพาะเป้เล้กสำหรับใส่น้ำ ของว่าง ขนมหวานทานระหว่างทาง (แนะนำของที่ให้พลังงานไวเช่น กล้วยตาก ขนมกลุ่มช๊อคโกแลต) และใส่ gadget ต่างๆ รวมทั้ง ร่มหรือเสื้อกันฝน อย่าลืมห่อเสื้อผ้าของท่านกันน้ำฝนรั่วหากระหว่างทางมีฝนตก

3.7 คุณจะต้องเดินราว 4-6 ชั่วโมง ขึ้นเขาไปหลังแป เรามีคำแนะนำการเตรียมร่างกายดังนี้
3.7.1 วิธีทำให้เดินได้นานแบบสบายมากขึ้น – ให้ไปเดินออกกำลังระยะไกล 3-6 ชม ในวันหยุด ที่สวนสาธารณะ เช่น สวนรถไฟ สวนเบญจสิริกิตต์ สวนลุมพินี เดินทางราบ สำหรับคนที่วิ่งเป็นประจำวันละ 1/2 ชม -1 ชม /ปั่นจักรยานเป็นประจำ/ เต้นแอโรบิค สามารถไปได้ทันที สบายๆ

3.7.2 วิธีทำให้เดินแล้วลดอาการเจ็บเข่า และ ปวดกล้ามเนื้อน้อยลงตอนขึ้น ลง ชัน – ให้ออกกำลังโดยการ ย่อตัวขึ้นลงทุกวันก่อนไป เน้นที่กล้ามเนื้อหน้าขา และยืดแขนขาร่างกาย (ตรงกับท่าที่ 13 ในเอกสารในลิ้งค์นี้ -และควรฝึกท่าอื่นๆ ไปด้วยก่อนไป)
http://www.pt.mahidol.ac.th/ptclinic/index.php?option=com_content&view=article&id=224:2009-10-26-04-55-19&catid=64:2009-09-06-10-27-11&Itemid=143

3.7 เปิดตา เปิดใจสำหรับสิ่งรอบ ๆ ตัว ที่ท่านจะได้ไปสัมผัสจากทริปนี้ อันนี้สำคัญ เพราะถ้ารีบเดิน จะถึงเร็วเดี๋ยวจะเบื่อง่าย ค่อยๆเดินไม่ช้าไม่เร็วไป มองหามุมถ่ายภาพของตนเอง เวลาขึ้นภูเฉลี่ย 4-6 ชม โดยปกติบ่ายๆ ก็ขึ้นถึงหลังแปกันแล้ว

4. สูงวัยไปได้ไหม เด็กไปได้ไหม
โดยสถิติ เราเคยนำครอบครัวที่มีน้องวัย 5 ขวบไปด้วย – จนถึง คุณตา-ยายวัย 70 ปี และ 50+ อีกมากมายขึ้นภูสอบดาวมาแล้ว จุดตัดสินไม่น่าใช่แค่อายุแต่เป็น
4.1. ความแข็งแรงของสุขภาพ โดยรวมคนธรรมดาเดินตัวเปล่าก็ขึ้นได้หมด ปัญหามักเกิดกับคนที่ข้อเข่าไม่ดี ซึ่งจะเจ็บง่ายกว่าเพราะทางขึ้นลงภูนั่นเอง
4.2.โรคประจำตัว ต้องรู้จักตนเอง เป็นโรคประจำตัวอะไร แจ้งมาให้หมด เคยพบท่านที่เป็นหืดหอบ แต่ไม่ยอมแจ้ง จนเป้นที่ข้างบน ซึ่งแก้ไขปัญหากันได้แต่ก็ไม่สะดวกทั้งผู้ไปและผู้จัด คนเป็นโรคหัวใจ ไม่แนะนำให้ไป แนะนำให้เที่ยวที่อื่นๆ แทน เพราะมีความเสี่ยง เวลาเกิดเหตุคุณอาจเสียชีวิตได้
4.3 พาเด็กไปต้องดูแลให้ดี เจ้าหน้าที่ดูแลเด็กได้ไม่ทั่วถึงแน่นอน กิจกรรมเดินป่า ทุกคนต้องรับผิดชอบตนเองได้ระดับหนึ่ง และเป็นเด็กที่ไม่ถูกสปอยล์ จะสนุกมาก
4.4 จิตใจต้องสู้ หรือ อยากจะขึ้นภูจริงๆ – ไม่ใช่โดนหลอกมา เราเคยพบคนที่โดนเพื่อนหลอกมา ร่างกายปกติ แต่ใจไม่สู้ หยุดเดินเมื่อถึงเนินมรณะ ต้องให้ลูกหาบพาลง เพราะเขาไม่สนุกที่จะไปต่อแล้ว หากมาเพราะอยากเห็น อยากชม และรู้สภาพ ไม่ต้องกังวล เดินเรื่อยๆ ไปเนิบๆ เที่ยวช้าๆ ใจเย็นๆ ก็ขึ้นถึงทุกคน
4.5 สงสัยว่าจะได้ไหมสอบถามเพิ่มเติมกับพนักงานขายทางโทรศัพท์ก่อนได้ เพื่อจะได้สัมภาษณ์และประเมินให้จ้า

4. เที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นอย่างไร
เพื่อ การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อให้การท่องเที่ยวของเราไม่ทำร้ายธรรมชาติมากเกินไป เราขอร้องให้นักท่องเที่ยวที่เลือกใช้บริการของเรา ช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะ นำที่ดังนี้ …
1. ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง หากท่านชวนเพื่อนไป เพื่อนของท่าน อาจยังไม่ทราบ การให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ (นำข้อมูลโปรแกรม คำแนะนำ แชร์เฟสบุ๊คให้เขาได้อ่าน) จะทำให้ท่านทราบสภาพพื้นที่ และเที่ยว พัก ชมธรรมชาติได้สนุกขึ้น เราเคยพบเพื่อนักท่องเที่ยวที่โดนเพื่อนชวนมาโดยไม่แจ้งข้อมูล ทำให้การแต่งกาย การเตรียมตัวไม่พร้อม และเที่ยวไม่สนุกเลย ข้อนี้จึงสำคัญมาก เพื่อนทุกคนที่ไปกับท่านควรได้รู้ข้อมูลก่อนเดินทาง
2. กรุณาช่วยลดของเสียและขยะ ด้วยการลดการนำพลาสติค หรือ ภาชนะโฟม หรือ สิ่งไม่จำเป็นเข้าไป อะไรที่ใช้ซ้ำได้ก็แนะนำให้ใช้ซ้ำ ขยะเราจะพยายามนำลงมา โดยเฉพาะอะไรที่ไม่ย่อยสลาย พบเห็นขยะตกค้างช่วยแจ้งเตือนสตาฟด้วย
3. ไม่ทิ้งขยะในป่า หรือในน้ำ ขยะที่เกิดจากสารเคมีสังเคราะห์เช่น พลาสติค เป็นวัสดุที่ควรนำออกมากำจัดนอกป่า
4 ไม่ซื้อของป่า สัตว์ป่า ถ้าพบคนนำมาขายก็ห้ามซื้อ ไม่เบียดเบียนชีวิตในป่า เพื่อความสนุกสนานหรือคึกคะนอง ที่ภูสอยดาวเรามีโอกาสได้พบซาลามานเดอร์ เขาอยู่ได้ในน้ำสะอาด แต่น้ำสกปรกได้ ถ้านักท่องเที่ยวไปอาบ หรือ นำสารเคมีไปใช้ในลำธาร ซึ่งจะทำให้เขาอยู่ไม่ได้
5. ร่วมสนับสนุนท้องถิ่น ด้วยการอุดหนุนขนม อาหารของท้องถิ่น ที่ระลึก แม้มีแพคเกจจิ้งไม่สวยเท่าร้านหรูในเมืองก็ตาม เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนที่เราไปเยือนโดยตรงนั่นเอง
6. เรียนรู้ สอบถาม ไกด์และไกด์ท้องถิ่นในเรื่องราวของนิเวศวิทยาและธรรมชาติ แม้เป็นทริปที่ดูสบาย ๆ ท่านก็จะได้ความรู้และเข้าใจในทัวร์ เราอยากให้ท่านได้รับประสบการณ์จากการเดินทาง นอกเหนือจากการได้ความบันเทิง อย่างเดียว ขอให้ไปเยือนอย่างเคารพและเข้าใจ ..ในธรรมชาติ

5. โทรศัพท์บนภู มีสัญญาณไหม
ต้องเดินไปโทร จะมีจุดที่พอมีสัญญาณดีแทค เอไอเอส อยู่บ้าง สัญญาณบางช่วงมีขาดหายบ้าง

6 บนภูได้ข่าวว่ามีแมลงบางอย่างกัดเจ็บเหมือนกัน คืออะไร ระวังยังไง

เขาคือตัวคุ่น เป็นแมลงริ้นดำชนิดหนึ่งที่กัดแล้วจะทำให้เกิดตุ่มแดง หรือแผลอักเสบได้ ถือเป็นแมลงที่ควรระวัง แต่ไม่ต้องกลัวมากจนเกินไป ของภูสอยดาวเลยทีเดียว คนที่แพ้จะไม่หายไปเป็นปีๆ เลยทีเดียว ป้องกันโดยการใส่เสื้อฟ้าแขนยาว หรือปลอกแขน ทายาป้องกัน(แนะนำควรแรงระดับ DEET 95 ) หากท่านทาน้ำมันหรือยาป้องกันอื่นๆให้สังเกตด้วย ถ้าคุ่นไม่ยุ่งกับท่านก็ใช้ได้เหมือนกัน คุ่นบินไม่เร็วนัก โดยทั่วไปแล้วจะเข้ากัดมากสองช่วงเวลาในหนึ่งวัน คือช่วงเช้า และเย็น เวลา 7.00–8.00 น. และ 16.00–17.00 น. ส่วนตอนสายๆจนถึงบ่ายพบน้อย

เป็นกลุ่มแมลง ริ้นดำ – อ่านเพิ่มเติมได้จาก http://www.thairath.co.th/content/118047
และ http://www.qsbg.org/Database/Article/Art_Files/299297Black%20flies.pdf
http://nstda.or.th/rural/public/100%20articles-stkc/83.pdf
อ่านแล้วท่านจะรู้จักและเข้าใจ คุ่น มากยิ่งขึ้นแน่นอน

ยากันแมลงที่ทางร้าน TKT Adventure มีจำหน่าย
https://www.trekkingthai.com/cgi-bin/shopping/show.pl?P0165

รู้ไว้ก่อนไปกับเรา…กติกาในการไปทัวร์เชิงนิเวศกับ ทีเคที อีโคทัวร์ จ้ะ (Responsible Travel Tips)

เพื่อ การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อให้การท่องเที่ยวของเราไม่ทำร้ายธรรมชาติมากเกินไป เราขอร้องให้นักท่องเที่ยวที่เลือกใช้บริการของเรา ช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะ นำที่ดังนี้ …

1. ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง หากท่านชวนเพื่อนไป เพื่อนของท่าน อาจยังไม่ทราบ อาจยังมีแนวคิดว่าไปเที่ยวป่า ก็สามารถทำตนเหมือนเที่ยวเมืองได้ การแลกเปลี่ยนข้อมูล จะทำให้ท่านทราบสภาพพื้นที่ และเที่ยว พัก ชมธรรมชาติได้สนุกขึ้น

2. แต่งกายเหมาะสม เนื่องจากทริปนี้มีทั้งบุกป่าฝ่าดง และลุยน้ำ เสื้อผ้าที่ใส่จึงควรเป็นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วคล่องตัว ไม่อึดอัด ไม่รุ่มร่าม ส่วนยีนส์นั้นไม่แนะนำให้ใส่เด็ดขาดค่ะ รองเท้าควรจะเป็นแบบปิดปลายเท้า และรัดส้น มีดอกยางสักนิดค่ะ

3. กรุณาช่วยลดของเสียและขยะ ด้วยการลดการนำพลาสติค หรือ ภาชนะโฟม หรือ สิ่งไม่จำเป็นเข้าไป อะไรที่ใช้ซ้ำได้ก็แนะนำให้ใช้ซ้ำ

4. ไม่ทิ้งขยะในป่า หรือในน้ำ ขยะที่เกิดจากสารเคมีสังเคราะห์เช่น พลาสติค เป็นวัสดุที่ควรนำออกมากำจัดนอกป่า

5. ไม่ซื้อของป่า สัตว์ป่า ไม่เบียดเบียนชีวิตในป่า เพื่อความสนุกสนานหรือคึกคะนอง

6. ร่วมสนับสนุนท้องถิ่น ด้วยการอุดหนุนขนม อาหารของท้องถิ่น ที่ระลึก แม้มีแพคเกจจิ้งไม่สวยเท่าร้านหรูในเมืองก็ตาม เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนที่เราไปเยือนโดยตรงนั่นเอง เช่น

7. เรียนรู้ สอบถาม ไกด์และไกด์ท้องถิ่นในเรื่องราวของนิเวศวิทยาและธรรมชาติ แม้เป็นทริปที่ดูสบาย ๆ ท่านก็จะได้ความรู้และเข้าใจในทัวร์ เราอยากให้ท่านได้รับประสบการณ์จากการเดินทาง นอกเหนือจากการได้ความบันเทิง อย่างเดียว

ที เคที อีโคทัวร์ ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่านแทนธรรมชาติ ที่ท่านเข้าไปเยือนอย่างเคารพและเข้าใจ .. ขอให้ทุกท่านสนุกกับกิจกรรมทัวร์เชิงนิเวศกับเราครับ ป่าเขาและท้องถิ่นห่างไกลยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จิตใจดีงามทุกคน…

[/tab] [tab title=”แผนที่เส้นทาง และ ระดับความยากของทริปนี้”]

**** ระดับดาวความง่าย – ยากของระดับการเดินป่า

ทริปนี้ เราจัดในระดับ 2.5

แผนที่เส้นทางเดินภูสอยดาว1

เส้นทางเดินป่าภูสอยดาว 2

เส้นทางการเดินป่าภูสอยดาว    เริ่มต้นจากน้ำตกภูสอยดาว  – ลานสนสามใบ ความสูงจากระดับน้ำทะเล  1633  เมตร

น้ำตกภูสอยดาว  –  เนินส่งญาติ    ระยะทางราว   1 กิโลเมตร
เนินส่งญาติ  – เนินปราบเซียน   ระยะทางราว   1  กิโลเมตร  300 เมตร
เนินปราบเซียน  –  เนินป่าก่อ ระยะทางราว  1  กิโลเมตร   100 เมตร
เนินป่าก่อ – เนินเสือโคร่ง  ระยะทางราว   1  กิโลเมตร  500 เมตร
เนินเสือโคร่ง – เนินมรณะ ระยะทางราว  200 เมตร
เนินมรณะ  –  ลานสนสามใบ  ระยะทางราว  800 เมตร
ลานสนสามใบ – จุดตั้งแค้มป์  ระยะทาง  600 เมตร

รวมระยะทางทั้งหมด   6กิโลเมตร  500  เมตร

************************************************

1 ดาว เดินป่าระดับง่ายมาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน ผู้เดินทางไม่ต้องแบกสัมภาระเอง และที่จุดตั้งแค้มป์มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวกครบครัน ผู้ที่เดินทางไปไม่ต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอด

2 ดาว เดินป่าระดับง่าย คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองบ้างบางส่วน ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองบ้างนิดหน่อย

2.5 ดาว เดินป่าระดับง่ายแต่ได้ใช้ทักษะ คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองบ้าง ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองเพิ่มเติม เช่น ปีนรากไม้ ไต่เชือก ล่องแก่ง หรือทักษะการดำรงชีพระดับต้นเพิ่มเติมจากทริประดับง่าย

3 ดาว เดินป่าระดับกลาง คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน อาจจะมีการย้ายแค้มป์ ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองบ้างบางส่วน ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองบ้างนิดหน่อย

3. 5 ดาว เดินป่าระดับกลาง – ยาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 1-2 วัน อาจจะมีการย้ายแค้มป์ “ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด” ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่ อาจต้องปีนป่าย นอนเปล ไม่ได้อาบน้ำ ความสะดวกน้อย

4 ดาว เดินป่าระดับยาก คือ เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 2วันเป็นต้นไป มีการย้ายแค้มป์ ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่

4.5 ดาว เดินป่าระดับยากมาก(ทริปสำรวจ) คือ เส้นทางเดินป่าที่ทางผู้จัดยังไม่มีข้อมูลในการจัดเส้นทางที่แน่ชัด เส้นทางจุดตั้งแค้มป์อาจมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ระยะเวลาในตั้งแค้มป์ 2วันเป็นต้นไป มีการย้ายแค้มป์ ผู้เดินทางแบกสัมภาระเองทั้งหมด ที่จุดตั้งแค้มป์ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ผู้ที่เดินทางไปต้องใช้ทักษะในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่

ปล. เกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์ที่ทางทีมงาน TKT กำหนดนิยามขึ้นมาเองเพื่อเป็นเกณฑ์ในการชี้แจงระดับความง่าย – ยากในการเดินป่า เพื่อให้ผู้ที่ร่วมเดินทางกับเรามองภาพการเดินป่าและประเมินศักยภาพตนเองได้ง่ายมากขึ้น โดยใช้ประสบการณ์การจัดทริปที่ผ่านมามากกว่า 20 ปี ในการกำหนด ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละกลุ่ม
[/tab] [tabs]

————————————————————-
ผู้สนใจจองหรือสอบถามมาได้เลย
ติดต่อสอบถาม ให้กรอกข้อมูลแล้วเราจะตอบกลับไปให้ทราบ
(ระมัดระวังตรงกรอกอีเมล์ให้ถูกต้องนะจ๊ะ)

ทีมงานTKT

ทีมงานของเราทุกคนชอบการท่องเที่ยว เดินทาง เดินป่า เราอยากให้คนไทยออกเที่ยวธรรมชาติกันมากๆ สนุกให้เต็มที่ มีหัวใจอนุรักษ์ TrekkingThai.Com

Recent Posts

This website uses cookies.