ทริปนี้เดินทางคนเดียว 14-18 ธ.ค. 2556 ผมเช็คข่าวเมเปิ้ลแดงเต็มต้น กับกลุ่มรักภูกระดึง และดูพยากรณ์อากาศ ทำนายว่ามีฝนตก ผมตัดสินรีบไปทันที และเน้นไปวันธรรมดา ไม่อยากเจอคนเยอะ นั่งรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เลย ขึ้นที่สถานีขนส่งหมอชิด2 ไปลงที่ผานกเค้า ผมใช้บริการของ ภูกระดึงทัวร์ และ ทัวร์เมืองเลย ค่าโดยสาร 391 บาท ใช้บริการ รอบ 21:30 น. ถึงผานกเค้า 5:30 น. แล้วต่อรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง คิดราคาเหมา 300 บาท (ต้องหาคนมาแชร์ค่ารถ) ใช้เวลาเดินทางถึงอุทยาน 30 นาที สำหรับระยะทางขึ้นภูกระดึงนั้น จากตีนภูตรงศูนย์บริการบ้านศรีฐาน ถึงหลังแป เป็นระยะทาง 5.5 กิโลเมตร แล้วเราต้องเดินทางราบต่อไปอีก 3.5 กิโลเมตร รวมทั้งหมด 9 กม. ผมเริ่มเดิน 7:05 น. ถึงปลายทาง 10:55 น. โดยแบกสัมภาระเอง 10 กก. และจ้างลูกหาบแบกสัมภาระ 12 กก.
และรถโดยสารประจำทางจาก ผานกเค้า – กทม. สามารถซื้อตั๋วได้ที่ร้านเจ๊กิม ของแอร์เมืองเลย ค่าโดยสาร 391 บาท
เปิดให้ขึ้นเขาเวลา 07.00 น.- 13.30 น ปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุกปี เพื่อให้สภาพธรรมชาติฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวก
เก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่คนละ 40 บาท
บริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 30 บาท
เช่าเต๊นท์ คืนละ 225 บาท (นอนได้ 3 คน) ถ้าเอาเต๊นท์มาเองคิด 30บาท/คืน
ค่าเช่าอุปกรณ์เครื่องนอน หมอน 10 บาท/คืน , ที่รองนอน 20 บาท/คืน , ผ้าห่มเล็ก 30 บาท/คืน ,ผ้าห่มใหญ่ 50 บาท/คืน และถุงนอน 30 บาท/คืน, ชาร์จโทรศัพท์ 20บาท
ร้านอาหารบนภูกระดึงมีจำนวนมาก ถ้าเป็นอาหารจานเดียว 60บาท, น้ำเปล่าขวดเล็ก 20 บาท ขวดใหญ่ 50 บาท ,เป๊บซี่ขวดเล็ก 30 บาท ขวดลิตร 80 บาท
น้ำตกถ้ำใหญ่ Thamyai Waterfall
น้ำตกโผนพบ Phonpob Waterfall
น้ำตกเพ็ญพบใหม่ Penpobmai Waterfall
ผาหมากดูก Pha Mark Duk,สระอโนดาต Anodad Pool,ผาหล่มสัก Pha Lomsak or Lomsak Cliff
ผานกแอ่น Pha Nok Ann (Swallow Cliff)
แผนที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
จากตีนภูตรงศูนย์บริการบ้านศรีฐาน ถึงหลังแป เป็นระยะทาง 5.5 กิโลเมตร แล้วเราต้องเดินทางราบต่อไปอีก 3.5 กิโลเมตร ถึงจุดศูนย์บริการวังกวาง รวมทั้งหมด 9 กม.
จุดนี้เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ตกดินที่ใกล้ที่สุด จากที่พักศูนย์วังกวาง ห่างเพียงระยะทาง 2 กิโลเมตร หรือจะลัดเลาะริมผามาจากหลังแป ผ่านผาเมษา (ปัจจุบันไม่มีชื่อนี้แล้ว) ไปทางทิศตะวันตก รวมระยะทาง 2.5 กิโลเมตร เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ตกที่แนะนำครับ สำหรับวันแรกเดินขึ้นมาเหนื่อยๆ พักสักแป๊ปหนึ่งแล้วเดินมาชมผาหมากดูก เย็นค่อยกลับ
ผาหมากดูก Pha Mark Duk
องค์พระที่ดูธรรมดาฝีมือช่างพื้นถิ่นเรียบง่ายนี้ มีประวัติและความเป็นมายาวนาน โดย หลวงวิจิตรคุณสาร นายอำเภอวังสะพุงในขณะนั้น ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างองค์พระพุทธรูป ขึ้นบนลานหินกลางทุ่งกว้างป่าสนบนยอดภูเมื่อปี 2463 แรกเริ่มเดิมทีองค์พระที่เป็น ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านหลายตำบลนี้ยังไม่มีชื่อ แต่ต่อมาในปี 2526 สมเด็จพระศรีณครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ฐูรณะองค์พระและบริเวณลานหินโดยรอบ และพระราชทานนามพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธเมตตา”
น้ำตกถ้ำใหญ่ Thamyai Waterfall อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 1470 เมตร ตลอดเส้นทางครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้ม ในเส้นทางถ้ำใหญ่นี้มีทางเดินบางช่วงที่เลียบข้างลำห้วยเล็กๆ มีต้นเมเปิ้ลอยู่เป็นระยะๆ
น้ำตกโผนพบ Phonpob Waterfall ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักมวยแชมป์เปี้ยนโลกคนแรกของประเทศไทย ผู้พบน้ำตกแห่งนี้ เมื่อครั้งที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาว ก่อนเดินทางไปชกต่างประเทศ ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2950 เมตร มีเมเปิลสีแดงอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
น้ำตกเพ็ญพบ Phonpob Waterfall ห่างจาก Visitor center 3329 เมตร
น้ำตกเพ็ญพบใหม่ Penpobmai Waterfall ห่างจาก Visitor center 2329 เมตร น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้ง มีความสูงประมาณ 10 เมตร ความกว้างของแผ่นหินประมาณ 25 เมตร น้ำจะไม่ตกทั่วแผ่นหิน จะไหลเป็นช่วงๆ จุดนี้จะมีเมเปิล 2 ต้น ฝั่งซ้ายใบสีส้ม ฝั่งขวาใบสีแดงสด สามารถขึ้นไปเดินบนแผ่นหินด้านบนได้ เดินลัดเลาะลงไปด้านล่างของน้ำตก
สระอโนดาด Anodad Pool แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี น้ำใสๆ ที่ไหลผ่านส่องสะท้อนท้องฟ้าสีคราม เราก็นั่งพักผ่อนให้ลมเย็นๆ พัดผ่าน ก่อนจะเดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนถึงน้ำตกสอเหนือ และน้ำตกสอใต้ เดินไปเรื่อยๆ จนถึงผาหล่มสัก อันเป็นจุดมุ่งหมายสุดท้าย
ร้านชมพู่มะเหมี่ยว ณ ผาหล่มสัก ขายชาเขียว กาแฟ บราวนี่
มีป้ายว่า ร้านกาแฟร้านแรกบนภูกระดึง
ชาเขียว 45 บาท บราวนี่ 25 บาท
มองจากจุดชมวิวผาหล่มสัก
ผาหล่มสัก Pha Lomsak or Lomsak Cliff เป็นหน้าผาชัน ที่ยื่นออกไปด้านอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นที่มาของชื่อหน้าผา “ผาหล่มสัก” ถึอว่าเป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวที่ได้ขึ้นมาภูกระดึงแล้วต้องมาถ่ายภาพ หากใครพลาด เหมือนกับการไม่ได้เที่ยวภูกระดึง ตรงหน้าผาที่ยื่นออกไปมีต้นสน 1ต้น ที่เป็นเสน่ห์กับผาหล่มสัก ซึ่งโดนฟ้าผ่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ปกติแล้วต้นสนบนยอดภูกระดึง ที่โดนฟ้าผ่า นั้นต้องตายแต่ต้นสนต้นนี้ ไม่ยอมแพ้ เหมือนจะเป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นผาหล่มสัก
สำหรับความลำบากของการมาชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ไม่ใช่ระยะทางการเดิน ถึง 9 กิโลเมตร แต่อยู่ที่การเดินกลับอีก 9 กิโลเมตร ในเส้นทางเลียบผา (นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไป-กลับคนละทางกัน) ที่ต้องฝ่าความมืดมิดหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉะนั้น สิ่งจำเป็นที่ต้องติดตัวมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็คือ ไฟฉาย หรืออุปกรณ์ให้แสงสว่างอื่นๆ รวมทั้งอุปกรณ์กันหนาวด้วย
ผานกแอ่น Pha Nok Ann (Swallow Cliff) คล้ายเป็นสัญญาณของการออกเดินท่องเที่ยวในเช้าวันใหม่ นักท่องเที่ยวที่มานั่งชมพระอาทิตย์ยามเช้า ก็เหมือนกับได้ชาร์ตแบตให้เต็มที่ ก่อนจะออกไปตะลุยภูกระดึงกันทั้งวัน ทิวทัศน์ยามเช้า นอกจากจะมีแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ สว่างขึ้นแล้ว ก็ยังมีสายหมอกขาวไหลเอื่อยๆ ผ่านพื้นราบด้านล่างที่ยังคงเขียวขจี
ในประเทศไทยพบเมเปิ้ลอยู่ 6 ชนิดคือ
1.ก่วมแดง (Acer calcaratum Gagnep.) พบบนภูกระดึง จังหวัดเลย
2.ก่วมเชียงดาว (Acer chiangdaoense Santisuk) พบบนดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
3.ก่วมขาว (Acer laurinum Hassk.) พบในภาคเหนือ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4.ก่วม (Acer oblongum Wall. ex DC.) ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้งและป่าดิบเขา ระดับความสูง 500-1500 เมตร
5.ก่วมใบใหญ่ (Acer thomsonii Miq.) ป่าดิบเขาทางภาคเหนือ พบครั้งเดียวที่จังหวัดตาก
6.ก่วมภูคา (Acer wilsonii Rehder) พบบน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน
ก่วมแดง (Acer calcaratum Gagnep.)
ขอจบรีวิว สวัสดีครับ
บทความต้นฉบับ http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=34&topic_no=482805&topic_id=490983
เที่ยวฟินๆ อิน … Read More
“โคลนก้อนสุดท้า… Read More
This website uses cookies.